เว็ปไซต์กระทรวงการต่างประเทสเผยแพร่ข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2554 เวลา 15.00 น. นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนในประเด็นต่างๆ ดังนี้
1. กรณีข่าวองค์การตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) ถอนหมายจับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
กรณีดังกล่าวเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนมาตั้งแต่ต้น เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา องค์การตำรวจสากลไม่เคยออกหมายจับ พ.ต.ท. ทักษิณฯ เกี่ยวกับเรื่องนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานประสานหลักของไทยกับองค์การตำรวจสากล
2. การออกหนังสือเดินทางให้แก่ พ.ต.ท. ทักษิณฯ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังไม่ได้สั่งการให้มีการดำเนินการใดๆ
3. กรณีกัมพูชาขอขึ้นทะเบียนรำไทย ท่าจีบไทย และหนังใหญ่กับองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก)
หน่วยงานหลักในเรื่องนี้คือ กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งในช่วงบ่ายของวันนี้ (15 สิงหาคม) ได้เชิญประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาหาแนวทางการดำเนินการที่เหมาะสม รวมทั้งประเด็นการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนและรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ปี 2544 ของประเทศไทย ซึ่งเมื่อเป็นภาคีแล้ว จึงสามารถขอขึ้นทะเบียนศิลปวัฒนธรรมของไทยเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ได้ต่อไป
1. กรณีข่าวองค์การตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) ถอนหมายจับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
กรณีดังกล่าวเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนมาตั้งแต่ต้น เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา องค์การตำรวจสากลไม่เคยออกหมายจับ พ.ต.ท. ทักษิณฯ เกี่ยวกับเรื่องนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานประสานหลักของไทยกับองค์การตำรวจสากล
2. การออกหนังสือเดินทางให้แก่ พ.ต.ท. ทักษิณฯ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังไม่ได้สั่งการให้มีการดำเนินการใดๆ
3. กรณีกัมพูชาขอขึ้นทะเบียนรำไทย ท่าจีบไทย และหนังใหญ่กับองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก)
หน่วยงานหลักในเรื่องนี้คือ กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งในช่วงบ่ายของวันนี้ (15 สิงหาคม) ได้เชิญประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาหาแนวทางการดำเนินการที่เหมาะสม รวมทั้งประเด็นการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนและรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ปี 2544 ของประเทศไทย ซึ่งเมื่อเป็นภาคีแล้ว จึงสามารถขอขึ้นทะเบียนศิลปวัฒนธรรมของไทยเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ได้ต่อไป