นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า ทางกรมได้เตรียมพร้อมรับมือ และป้องกันปัญหาการเดินเรือที่อาจจะเกิดขึ้น หากเกิดภาวะน้ำมากในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยจัดส่งเจ้าหน้าที่เพื่อควบคุมเรือลากจูง เรือขนส่งสินค้า และเรือโดยสาร ให้เดินเรือช้าและเบาลง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับประชาชนที่อยู่บริเวณริมน้ำ และป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากปริมาณน้ำในแม่น้ำที่สูงขึ้น จะส่งผลให้กระแสน้ำแรง โดยในจุดอันตรายจะมีการติดตั้งป้ายเตือน และจัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจ เพื่อป้องกันปัญหาไม่ให้ซ้ำรอย กรณีเรือน้ำตาลล่มเหมือนครั้งที่ผ่านมา
ทั้งนี้ในพื้นที่เขต จ.พระนครศรีอยุธยา ได้มีการจัดชุดเฉพาะกิจ เพื่อดูแลการเดินเรือที่สัญจรในแม่น้ำ และในส่วนของสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา หรือสะพานหัวดุม จุดเกิดอุบัติเหตุเรือน้ำตาลทรายล่ม ได้มีการตรวจสอบเรือลากจูง ทั้งด้านกำลังแรงม้าของเรือที่ทำการลาก ว่ามีกำลังเพียงพอหรือไม่ รวมถึงลักษณะการตั้งลำเรือเพื่อความปลอดภัย หากพบความไม่ปลอดภัย ทางกรมจะมีการจัดเรือลากจูงเสริม สำหรับการควบคุมความเร็วเรือจะขอความร่วมมือออกข้อกำหนดให้เรือเดินช้า และเบาลง โดยจะเป็นลักษณะการลดความเร็วของรอบเครื่อง เช่น จากเดิมใช้ความเร็วที่ 1,500 รอบต่อนาที ลดลงเหลือ 1,000 รอบต่อนาที เพื่อความปลอดภัยของการเดินเรือ
ทั้งนี้ในพื้นที่เขต จ.พระนครศรีอยุธยา ได้มีการจัดชุดเฉพาะกิจ เพื่อดูแลการเดินเรือที่สัญจรในแม่น้ำ และในส่วนของสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา หรือสะพานหัวดุม จุดเกิดอุบัติเหตุเรือน้ำตาลทรายล่ม ได้มีการตรวจสอบเรือลากจูง ทั้งด้านกำลังแรงม้าของเรือที่ทำการลาก ว่ามีกำลังเพียงพอหรือไม่ รวมถึงลักษณะการตั้งลำเรือเพื่อความปลอดภัย หากพบความไม่ปลอดภัย ทางกรมจะมีการจัดเรือลากจูงเสริม สำหรับการควบคุมความเร็วเรือจะขอความร่วมมือออกข้อกำหนดให้เรือเดินช้า และเบาลง โดยจะเป็นลักษณะการลดความเร็วของรอบเครื่อง เช่น จากเดิมใช้ความเร็วที่ 1,500 รอบต่อนาที ลดลงเหลือ 1,000 รอบต่อนาที เพื่อความปลอดภัยของการเดินเรือ