ตลาดการเงินเอเชียยังคงตื่นตระหนกไม่มั่นใจภาวะเศรษฐกิจโลก ภายหลังรัฐบาลสหรัฐฯถูกหั่นลดเครดิตเรตติ้ง และวิกฤตหนี้สินสาธารณะของยูโรโฟนทำท่าลุกลามถึงอิตาลีและสเปน ทำให้ตลาดวอลล์ทสตรีทร่วงหนักในวันจันทร์(8) แล้วส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียและยุโรปวันอังคาร(9) ดิ่งลงเหวต่อ โดยพ่วงปัจจัยวิตกจากปัญหาเงินเฟ้อในจีนที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีด้วย ผลจากการที่นักลงทุนเทขายหุ้นและแห่ไปซื้อทองคำกักตุนไว้ก็ดันให้ราคาทองคำกระโจนขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ด้วย
ผลจากความตื่นตระหนกว่าปัญหาหนี้สินสาธารณะของสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ถูกสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) หั่นเครดิตเรตติ้งลงเหลือ AA+ ไปหมาดๆ เมื่อวันศุกร์(5) อาจฉุดรั้งให้เศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของโลกรายนี้เข้าสู่ภาวะถดถอยระลอกสองนั้น ก็ทำให้นักลงทุนวอลล์สตรีทต่างพากันเทขายหุ้นทิ้งในวันจันทร์ (8) ส่งผลให้ดัชนี S&P500 ดำดิ่ง 6.66% ลงมาปิดที่ระดับ 1,119.46 จุด ซึ่งถือเป็นภาวะตลาดเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2008 ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ ภาคอุตสาหกรรม ก็ไม่น้อยหน้า ร่วงลง 634.76 จุด คิดเป็น 5.55% มาปิดที่ระดับ 10,809.85 จุด ส่วนแนสแด็ก คอมโปสิต ก็ลดฮวบฮาบ 174.72 จุด หรือ 6.9%
ทางด้านสถานการณ์ตลาดหุ้นฟากเอเชียเมื่อวันอังคาร (9) ปรากฏว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์สำคัญๆ ต่างปิดในแดนลบกันถ้วนหน้าต่อเนื่องเป็นวันที่สองของสัปดาห์ จากความวิตกในปัญหาหนี้สินของสหรัฐฯ และยูโรโซนเป็นสำคัญ โดยดัชนีนิเกอิ โตเกียว ดิ่งลง 153.08 จุด หรือ 1.68% มาปิดที่ระดับ 8,944.48 จุด ขณะที่ดัชนีหั่งเส็ง ฮ่องกง รูดลง 1,159.87 จุด หรือ 5.66% ก่อนปิดที่ระดับ 19,330.70 จุด ส่วนดัชนี KOSPI โซล ร่วงลง 3.63%, เช่นเดียวกับดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโปสิต ที่ปิดต่ำลง 0.75% หลังจากร่วงลงไปลึกและดีดตัวกลับขึ้นมาปิดที่ระดับต่ำกว่าวันจันทร์เล็กน้อยด้วยแรงช้อนซื้อในช่วงท้าย
ผลจากความตื่นตระหนกว่าปัญหาหนี้สินสาธารณะของสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ถูกสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) หั่นเครดิตเรตติ้งลงเหลือ AA+ ไปหมาดๆ เมื่อวันศุกร์(5) อาจฉุดรั้งให้เศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของโลกรายนี้เข้าสู่ภาวะถดถอยระลอกสองนั้น ก็ทำให้นักลงทุนวอลล์สตรีทต่างพากันเทขายหุ้นทิ้งในวันจันทร์ (8) ส่งผลให้ดัชนี S&P500 ดำดิ่ง 6.66% ลงมาปิดที่ระดับ 1,119.46 จุด ซึ่งถือเป็นภาวะตลาดเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2008 ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ ภาคอุตสาหกรรม ก็ไม่น้อยหน้า ร่วงลง 634.76 จุด คิดเป็น 5.55% มาปิดที่ระดับ 10,809.85 จุด ส่วนแนสแด็ก คอมโปสิต ก็ลดฮวบฮาบ 174.72 จุด หรือ 6.9%
ทางด้านสถานการณ์ตลาดหุ้นฟากเอเชียเมื่อวันอังคาร (9) ปรากฏว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์สำคัญๆ ต่างปิดในแดนลบกันถ้วนหน้าต่อเนื่องเป็นวันที่สองของสัปดาห์ จากความวิตกในปัญหาหนี้สินของสหรัฐฯ และยูโรโซนเป็นสำคัญ โดยดัชนีนิเกอิ โตเกียว ดิ่งลง 153.08 จุด หรือ 1.68% มาปิดที่ระดับ 8,944.48 จุด ขณะที่ดัชนีหั่งเส็ง ฮ่องกง รูดลง 1,159.87 จุด หรือ 5.66% ก่อนปิดที่ระดับ 19,330.70 จุด ส่วนดัชนี KOSPI โซล ร่วงลง 3.63%, เช่นเดียวกับดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโปสิต ที่ปิดต่ำลง 0.75% หลังจากร่วงลงไปลึกและดีดตัวกลับขึ้นมาปิดที่ระดับต่ำกว่าวันจันทร์เล็กน้อยด้วยแรงช้อนซื้อในช่วงท้าย