สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า วิกฤตน้ำมันรั่วไหลครั้งใหญ่ในแคว้นโอโกนิแลนด์ ของไนจีเรีย จะต้องใช้เวลาถึง 30 ปี จึงจะสามารถกำจัดและทำความสะอาดได้หมด
โครงการสิ่งแวดล้อมของสหประชาชาติ หรือยูเอ็นดีพี กล่าวในแถลงการณ์ว่า พื้นที่แคว้นโอโกนิแลนด์ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ ได้รับผลกระทบจากอุตสาหกรรมน้ำมันในพื้นที่ที่ดำเนินมานาหลายสิบปี โดยเฉพาะปัญหาการรั่วไหลของน้ำมันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้แหล่งน้ำและพื้นที่เพาะปลูกในหลายชุมชนปนเปื้อนด้วยสารอันตรายจากน้ำมันรั่วไหล ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 30 ปี จึงจะทำให้แคว้นโอโกนิแลนด์กลับมาคงสภาพปกติอีกครั้ง และต้องใช้งบประมาณกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ บริษัทเชลล์ ออกมาแสดงความรับผิดชอบที่ทำให้เกิดการรั่วไหลของน้ำมันดิบในแคว้นโอโกนิแลนด์เมื่อปี 2551 และปี 2552
โครงการสิ่งแวดล้อมของสหประชาชาติ หรือยูเอ็นดีพี กล่าวในแถลงการณ์ว่า พื้นที่แคว้นโอโกนิแลนด์ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ ได้รับผลกระทบจากอุตสาหกรรมน้ำมันในพื้นที่ที่ดำเนินมานาหลายสิบปี โดยเฉพาะปัญหาการรั่วไหลของน้ำมันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้แหล่งน้ำและพื้นที่เพาะปลูกในหลายชุมชนปนเปื้อนด้วยสารอันตรายจากน้ำมันรั่วไหล ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 30 ปี จึงจะทำให้แคว้นโอโกนิแลนด์กลับมาคงสภาพปกติอีกครั้ง และต้องใช้งบประมาณกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ บริษัทเชลล์ ออกมาแสดงความรับผิดชอบที่ทำให้เกิดการรั่วไหลของน้ำมันดิบในแคว้นโอโกนิแลนด์เมื่อปี 2551 และปี 2552