ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดีหมิ่นประมาทกล่าวทุจริตเช่าซื้อรถเมล์ปรับอากาศ NGV จำนวน 4,000 คัน โดยคดีนี้ นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต อดีตประธานคณะกรรมการบริหาร องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา จากกรณีเมื่อวันที่ 2-3 มิถุนายน 2552 จำเลยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่อาคารรัฐสภา ภายหลังการประชุมคณะกรรมาธิการ เพื่อพิจารณาเรื่องตรวจสอบการเช่ารถเมล์ปรับอากาศ NGV ขสมก.จำนวน 4,000 คัน ทำนองว่า มีหลักฐานว่าโจทก์มีส่วนร่วมทุจริต และยังไม่เคารพสภาฯ หลังจากไม่เข้าชี้แจงตามคำเชิญของคณะกรรมาธิการฯ
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐาน เห็นว่า การทำหน้าที่ของจำเลยเป็นการกระทำโดยชอบ ในฐานะรองประธานกรรมาธิการ ซึ่งมีอำนาจในการตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่แล้ว อีกทั้งกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ ปกป้องประโยชน์สาธารณะ การตำหนิติติงจึงไม่ถือเป็นการหมิ่นประมาท ส่วนประเด็นการพิจารณาการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน ไม่ได้เป็นการบังคับขู่เข็ญ จึงพิพากษาให้ยกฟ้อง
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐาน เห็นว่า การทำหน้าที่ของจำเลยเป็นการกระทำโดยชอบ ในฐานะรองประธานกรรมาธิการ ซึ่งมีอำนาจในการตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่แล้ว อีกทั้งกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ ปกป้องประโยชน์สาธารณะ การตำหนิติติงจึงไม่ถือเป็นการหมิ่นประมาท ส่วนประเด็นการพิจารณาการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน ไม่ได้เป็นการบังคับขู่เข็ญ จึงพิพากษาให้ยกฟ้อง