นายวิทย์ ประทักษ์ใจ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนส่งเคราะห์การทำสวนยาง หรือ สกย. กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการขยายพื้นที่ปลูกยางในพื้นที่ใหม่ ระหว่างปี 2554-2556 ว่าเกษตรกรแจ้งความประสงค์ปลูกยางปีนี้ เฟสแรก เพียง 7 หมื่นไร่ จากเป้าหมาย 2 แสนไร่ เนื่องจากประสบปัญหากล้ายางราคาสูง ทำให้เกษตรกรขาดเงินลงทุน ส่วนที่เหลือขอเลื่อนปลูกในปีหน้า
สำหรับกล้ายาง ขณะนี้อยู่ที่ต้นละ 40-45 บาท เพราะเป็นช่วงปลายฤดูเพาะปลูก ก่อนหน้านี้ราคาเฉลี่ยที่ต้นละ 50-60 บาท ทั้งนี้ สกย.จะเสนอปัญหาราคากล้ายางให้กับรัฐบาลใหม่พิจารณาว่าจะมีแนวทางอย่างไร ให้เกษตรกรสามารถปลูกยางได้
ผู้อำนวยการ สกย.ยืนยันว่า พื้นที่ปลูกยาง จำนวน 7 หมื่นไร่ ต้องใช้กล้ายาง ทั้งสิ้นกว่า 5 ล้านต้น ขณะนี้มีเพียงพอกับเกษตรกร เพราะมีผู้ประกอบการแปลงเพาะพันธุ์ยาง หลายพื้นที่เข้าร่วมโครงการ ทำให้ขณะนี้ ภาคอีสานและภาคเหนือเริ่มปลูกยางได้แล้ว ส่วนการจ่ายเงินสนับสนุนกล้ายาง ให้เกษตรกรนั้น จะจ่ายชดเชยที่ต้นละ 18 บาท โดยกำหนดไร่ละไม่เกิน 90 ต้น ทั้งนี้ สกย.จะเข้าตรวจสอบพื้นที่ปลูกยางของเกษตรกร ก่อนจ่ายชดเชยให้กับเกษตรกร สำหรับแนวโน้มราคายางขณะนี้ ยังทรงตัว โดยยางแผ่นดิบ อยู่ที่กิโลกรัมละ 140 บาท
สำหรับกล้ายาง ขณะนี้อยู่ที่ต้นละ 40-45 บาท เพราะเป็นช่วงปลายฤดูเพาะปลูก ก่อนหน้านี้ราคาเฉลี่ยที่ต้นละ 50-60 บาท ทั้งนี้ สกย.จะเสนอปัญหาราคากล้ายางให้กับรัฐบาลใหม่พิจารณาว่าจะมีแนวทางอย่างไร ให้เกษตรกรสามารถปลูกยางได้
ผู้อำนวยการ สกย.ยืนยันว่า พื้นที่ปลูกยาง จำนวน 7 หมื่นไร่ ต้องใช้กล้ายาง ทั้งสิ้นกว่า 5 ล้านต้น ขณะนี้มีเพียงพอกับเกษตรกร เพราะมีผู้ประกอบการแปลงเพาะพันธุ์ยาง หลายพื้นที่เข้าร่วมโครงการ ทำให้ขณะนี้ ภาคอีสานและภาคเหนือเริ่มปลูกยางได้แล้ว ส่วนการจ่ายเงินสนับสนุนกล้ายาง ให้เกษตรกรนั้น จะจ่ายชดเชยที่ต้นละ 18 บาท โดยกำหนดไร่ละไม่เกิน 90 ต้น ทั้งนี้ สกย.จะเข้าตรวจสอบพื้นที่ปลูกยางของเกษตรกร ก่อนจ่ายชดเชยให้กับเกษตรกร สำหรับแนวโน้มราคายางขณะนี้ ยังทรงตัว โดยยางแผ่นดิบ อยู่ที่กิโลกรัมละ 140 บาท