xs
xsm
sm
md
lg

ศาลพิพากษาให้ รฟท.เลิกจ้าง “สาวิทย์” กับพวก กรณีประท้วงหยุดเดินรถ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ที่ศาลแรงงานกลาง เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 28 ก.ค. ศาลอ่านคำพิพากษาคดีที่การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เป็นโจทก์ฟ้อง นายภิญโญ เรือนเพชร นายบรรจง บุญเนตร์ นายสาวิทย์ แก้วหวาน นายธารา แสวงธรรม นายเหลี่ยม โมกงาน นายสุพิเชษฐ์ สุวรรณชาตรี และ นายอรุณ ดีรักชาติ เป็นจำเลยที่ 1-7 ตามลำดับ โดยจำเลยที่ 3 (นายสาวิทย์ แก้วหวาน) เป็นประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย และกรรมการกิจการสัมพันธ์การรถไฟแห่งประเทศไทย ส่วนจำเลยที่ 1-2 และ 4-7 เป็นกรรมการฯ
คำฟ้องโจทก์สรุปว่า จำเลยทั้ง 7 ไม่ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ในการหาทางปรองดอง และระงับข้อขัดแย้งในรัฐวิสาหกิจ และกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของศาลจังหวัดสงขลา ในคดีหมายเลขดำที่ 926/2552 โดยจำเลยทั้ง 7 กับพวก ร่วมกันยุยง ชักชวนให้พนักงานขับรถ และพนักงานช่างเครื่องของโจทก์ทั่วประเทศ รวมทั้งโรงรถจักรหาดใหญ่ หยุดการปฏิบัติหน้าที่ขับขบวนรถไฟ เพื่อขนส่งผู้โดยสาร และสินค้า อันเป็นการบริการของโจทก์ และไม่ยินยอมให้โจทก์นำหัวรถจักรออกใช้งาน โดยอ้างคำเท็จว่า หัวรถจักรของโจทก์ชำรุด ไม่ปลอดภัยแก่พนักงานขับรถ และพนักงานช่างเครื่องที่จะใช้ลากจูงขบวนรถไฟ และบรรทุกสินค้า เป็นเหตุให้พนักงานขับรถ และพนักงานช่างเครื่องของโจทก์หลงเชื่อ ไม่ปฏิบัติหน้าที่ ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่มาใช้บริการ และทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย
นอกจากนี้ จำเลยทั้ง 7 กับพวก ยังร่วมกันปราศรัย ณ ที่ทำการสำนักงานใหญ่ ตึกบัญชาการของโจทก์ เพื่อขับไล่ และเรียกร้องให้รัฐบาลปลดผู้ว่าการรถไฟฯ อันเป็นการกระทำนอกเหนืออำนาจหน้าที่ ขัดต่อข้อบังคับของโจทก์ ถือเป็นความผิดชัดแจ้ง และยังเป็นการทำผิดกฎหมายอาญา โจทก์สามารถลงโทษไล่จำเลยทั้ง 7 ออกโดยไม่ต้องมีการสอบสวน จึงขอให้ศาลอนุญาตให้โจทก์เลิกจ้างจำเลยทั้ง 7 โดยให้ไล่ออกจากงาน และให้จำเลยทั้ง 7 ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ตามฟ้อง
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยข้อเท็จจริง ที่คู่ความทั้งสองฝ่ายนำสืบรับฟังแล้ว พิจาณาให้โจทก์เลิกจ้างจำเลยทั้ง 7 ได้ และให้จำเลยทั้ง 7 ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ เป็นเงิน 15 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันฟ้อง จนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น