เกิดเหตุนักโทษของเรือนจำในเมืองนูเอโว ลาเรโด ของเม็กซิโก แหกคุกหลบหนีการถูกจองจำ โดยนักโทษได้สร้างสถานการณ์ความวุ่นวาย และเข้าต่อสู้กับผู้คุมเรือนจำ ซึ่งตกเป็นฝ่ายแพ้ ทำให้นักโทษสามารถหลบหนีออกไปได้ 50 คน และเสียชีวิต 6 คน ขณะที่รัฐบาลเม็กซิโก ต้องส่งกำลังทหารเข้าควบคุมสถานการณ์ โดยนักโทษที่หลบหนีไปได้หลายคน ต้องโทษในคดียาเสพติด และเป็นสมาชิกแก๊งค้ายาเสพติดในท้องถิ่น
เรือนจำแห่งนี้ ตั้งอยู่รัฐทามาอูลิปัส ซึ่งอยู่อยู่ติดกับรัฐเทกซัส ของสหรัฐฯ และเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติดเส้นทางใหญ่ ขณะที่ชาวบ้านเชื่อว่า แก๊งค้ายาเสพติดทรงอิทธิพลในรัฐทามาอูลิปัส อยู่เบื้องหลังการแหกคุกครั้งนี้ ขณะนี้ ตำรวจกำลังตามล่าตัวนักโทษที่หนีไปได้ รวมทั้งผู้คุมเรือนจำอีก 5 คน ซึ่งมีรายงานว่า ได้หนีไปกับนักโทษด้วย
ทั้งนี้ ระบบทัณฑสถานในเม็กซิโก อื้อฉาวในเรื่องการทุจริตรับสินบน และการปฏิบัติกับนักโทษอย่างป่าเถื่อน รวมทั้งสภาพความเป็นอยู่ที่แออัด แต่นักโทษระดับเจ้าพ่อ กลับมีชีวิตอยู่ในเรือนจำอย่างสะดวกสบาย หรือสามารถหลบหนีออกจากเรือนจำได้ด้วยการติดสินบน
โดยการทำสงครามปราบปรามยาเสพติดของ ประธานาธิบดี เฟลิเป คัลเดรอน นับตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา และการเข่นฆ่ากันเองในหมู่แก๊งค้ายา ทำให้มีผู้เสียชีวิตในเม็กซิโก แล้ว ถึงกว่า 40,000 คน ขณะที่เมื่อปีที่แล้ว มีนักโทษเม็กซิโก หลบหนีจากเรือนไปได้เกือบ 400 คน
เรือนจำแห่งนี้ ตั้งอยู่รัฐทามาอูลิปัส ซึ่งอยู่อยู่ติดกับรัฐเทกซัส ของสหรัฐฯ และเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติดเส้นทางใหญ่ ขณะที่ชาวบ้านเชื่อว่า แก๊งค้ายาเสพติดทรงอิทธิพลในรัฐทามาอูลิปัส อยู่เบื้องหลังการแหกคุกครั้งนี้ ขณะนี้ ตำรวจกำลังตามล่าตัวนักโทษที่หนีไปได้ รวมทั้งผู้คุมเรือนจำอีก 5 คน ซึ่งมีรายงานว่า ได้หนีไปกับนักโทษด้วย
ทั้งนี้ ระบบทัณฑสถานในเม็กซิโก อื้อฉาวในเรื่องการทุจริตรับสินบน และการปฏิบัติกับนักโทษอย่างป่าเถื่อน รวมทั้งสภาพความเป็นอยู่ที่แออัด แต่นักโทษระดับเจ้าพ่อ กลับมีชีวิตอยู่ในเรือนจำอย่างสะดวกสบาย หรือสามารถหลบหนีออกจากเรือนจำได้ด้วยการติดสินบน
โดยการทำสงครามปราบปรามยาเสพติดของ ประธานาธิบดี เฟลิเป คัลเดรอน นับตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา และการเข่นฆ่ากันเองในหมู่แก๊งค้ายา ทำให้มีผู้เสียชีวิตในเม็กซิโก แล้ว ถึงกว่า 40,000 คน ขณะที่เมื่อปีที่แล้ว มีนักโทษเม็กซิโก หลบหนีจากเรือนไปได้เกือบ 400 คน