เร่งไล่ล่านักโทษชั้นเยี่ยมหลบหนีจากเรือนจำบุรีรัมย์

บุรีรัมย์ - จนท.เรือนจำบุรีรัมย์ และตำรวจ เร่งไล่ล่านักโทษชายคดีลักทรัพย์ รับของโจรและพยายามฆ่ารวม 5 คดี หลบหนีการควบคุมหลังกลับจากทำงานบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ทั้งที่ผู้ต้องขังเป็นนักโทษชั้นเยี่ยม เหลือระยะเวลาไม่ถึงปีจะพ้นโทษ ขณะแฟน อ้อนวอน มอบตัวโทษหนักจะเป็นเบา คาดหวังวางแผนอนาคตร่วมกันหลังพ้นโทษ

วันนี้ (30 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้เร่งระดมออกติดตามไล่ล่า นายสุพรรณ จ่างจิตร อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/11 ถ.อินจันทร์ณรงค์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ผู้ต้องขังโทษคดีพยายามฆ่า ลักทรัพย์ และรับของโจร รวม 5 คดี หลบหนีการควบคุมของเจ้าหน้าที่เรือนจำ หลังกลับจากออกไปทำงานบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ ลอกท่อระบายน้ำในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ โดยได้อาศัยช่วงนั่งพักก่อนเข้าแถวตรวจรายชื่อเข้าเรือนจำ หลบหนีไปกบดานซ่อนตัวอยู่ในเขตป่าวนอุทยานภูเขาไฟกระโดง ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ ทางเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังออกติดตามอย่างกระชั้นชิด

โดยเบื้องต้นได้รับแจ้งว่า นายสุพรรณ ได้ติดต่อกับ นางสินีนุช ยุยรัมย์ อายุ 33 ปี แฟนสาว ให้ซื้อข้าวมาให้กิน และโทรศัพท์ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ผู้คุมเรือนจำขอมอบตัว แต่ปรากฏว่า คุยกันยังไม่เข้าใจ โทรศัพท์แบตเตอรี่หมดทำให้ขาดการติดต่อ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ออกติดตามไล่ล่า

จนล่าสุดขณะนี้ก็ยังไม่พบตัวนายสุพรรณ แต่อย่างใด แต่เจ้าหน้าที่คงออกติดตามไล่ล่าอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งได้รายงานให้ นางมะลิวัลย์ พูนขวัญ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเดินทางไปราชการที่ต่างจังหวัดได้รับทราบแล้ว

ด้าน นางสินีนุช ยุยรัมย์ อายุ 33 ปี แฟนสาวนายสุพรรณ กล่าวว่า ได้รู้จักกับนายสุพรรณ ขณะถูกคุมขังในเรือนจำบุรีรัมย์ เมื่อปี 2550 และคบหากันเรื่อยมา โดยนายสุพรรณได้โทรศัพท์หาให้ซื้อข้าวมาให้กินที่บริเวณหน้าวนอุทยานภูเขาไฟกระโดง ขณะกำลังจะนั่งกินข้าวแฟนได้เห็นเจ้าหน้าที่เรือนจำ ตกใจจึงวิ่งหนีเข้าไปในป่าเขากระโดง และไม่ติดต่อมาอีกเลย

นางสินีนุช กล่าวต่อว่า ตนจะไปเยี่ยมแฟนที่เรือนจำเป็นประจำ ซื้อของไปฝาก และพูดคุยกันวางแผนชีวิตร่วมกัน หางานทำหลังพ้นโทษ เพราะอีกไม่กี่เดือนจะพ้นโทษออกมา จึงอยากวิงวอนให้แฟนออกมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่โทษหนักจะได้เป็นเบา

สำหรับประวัติ นายสุพรรณ จ่างจิตร ผู้ต้องขังที่หลบหนี ได้ถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหา “พยายามฆ่า” แต่ศาลได้พิจารณายกฟ้อง ส่วนคดีลักทรัพย์ และรับของโจร รวม 5 คดี ศาลพิพากษาตัดสินจำคุก 5 ปี 3 เดือน 29 วัน ซึ่งระหว่างถูกควบคุมตัวขังอยู่ในเรือนจำ นายสุพรรณ ได้ประพฤติปฏิบัติตัวอยู่กรอบกฎระเบียบของเรือนจำมาโดยตลอด จึงได้รับการพิจารณาเป็นนักโทษชั้นเยี่ยม ทางเรือนจำจึงได้ให้ออกทำงานบำเพ็ญสาธารณประโยชน์จนได้รับการลดโทษจำคุก เหลือเวลาอีกเพียง 8 เดือน 19 วันเท่านั้นก็จะพ้นโทษ แต่กลับหลบหนีการควบคุมตัวเสียก่อน