นายแพทย์กิตติพงษ์ แซ่เจ็ง ผู้อำนวยการสำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขเตรียมขยายการให้บริการปรึกษาปัญหาด้านเพศสัมพันธ์สำหรับวัยรุ่น ให้ครอบคลุมทุกโรงพยาบาล ในปี 2555 พร้อมขอความร่วมมือร้านขายยาทั่วประเทศ ให้ความรู้แก่วัยรุ่นทั้งชายและหญิงที่มาซื้อยาคุมกำเนิดให้ใช้อย่างถูกต้อง และเหมาะสม หลังพบวัยรุ่นไทยขาดความรู้ด้านการคุมกำเนิดขั้นรุนแรง แม้ในคลินิกครอบครัวจะมีวัยรุ่นมาขอคำปรึกษาเรื่องเพศสัมพันธ์ ถึงร้อยละ 66 แต่กลับพบวัยรุ่นไม่คุมกำเนิด ถึงร้อยละ 35 ทำให้เกิดการทำแท้ง ร้อยละ 70 ในกลุ่มนักศึกษา ที่เหลือใช้ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินแทนการใส่ถุงยางอนามัย และยาคุมกำเนิดรายเดือน ร้อยละ 10 หรือมียอดขาย 8 ล้านแผงต่อปี ทำให้เกิดปัญหาการติดเชื้อเอดส์ และท้องไม่พร้อม เพราะเข้าใจผิดว่า ยาคุมฉุกเฉินสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ความจริงทำได้เพียง ร้อยละ 80 ขึ้นอยู่กับเวลาการกิน หากกินมากเกินไป หรือเกิน 2 แผงต่อเดือน จะมีผลข้างเคียงมากกว่ายาคุมกำเนิดถึง 100 เท่า