นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุมและแสดงปาฐกถาพิเศษ ในการประชุมประจำปี 2554 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. เรื่อง แผน 11 สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน จัดขึ้นที่ห้องแกรนด์ไดมอน บอลรูม อิมแพ็ค เมืองทองธานี
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 ถือเป็นแผนที่ดีที่ผ่านการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั้งประเทศ ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ถือเป็นความสอดคล้องกับการพัฒนา และจะทำให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งนี้ยังมีสิ่งที่ท้าทายอีกหลายอย่างที่ต้องเตรียมรับมือ ทั้งเรื่องดุลอำนาจเศรษฐกิจโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงที่จะส่งผลต่อไทย สภาพภูมิอากาศ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น รวมถึงการกระจายผลประโยชน์ และสิ่งสำคัญคือ ปัญหาทางการเมือง หลังจากไทยมีการเลือกตั้งแล้ว จะมีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายจะเข้าสู่กระบวนการรัฐสภา ถือเป็นหน้าที่ของทุกฝ่าย ทั้ง รัฐบาล ฝ่ายค้าน ภาคธุรกิจ สื่อมวลชน ที่จะต้องช่วยกันลดบรรยากาศความขัดแย้ง ยุติการแบ่งแยกประชาชน ทำให้การเมืองเป็นเรื่องของประชาชนทุกกลุ่ม ผลักดันแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และนโยบายของรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อประโยชน์ของประชาชน
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 ถือเป็นแผนที่ดีที่ผ่านการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั้งประเทศ ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ถือเป็นความสอดคล้องกับการพัฒนา และจะทำให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งนี้ยังมีสิ่งที่ท้าทายอีกหลายอย่างที่ต้องเตรียมรับมือ ทั้งเรื่องดุลอำนาจเศรษฐกิจโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงที่จะส่งผลต่อไทย สภาพภูมิอากาศ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น รวมถึงการกระจายผลประโยชน์ และสิ่งสำคัญคือ ปัญหาทางการเมือง หลังจากไทยมีการเลือกตั้งแล้ว จะมีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายจะเข้าสู่กระบวนการรัฐสภา ถือเป็นหน้าที่ของทุกฝ่าย ทั้ง รัฐบาล ฝ่ายค้าน ภาคธุรกิจ สื่อมวลชน ที่จะต้องช่วยกันลดบรรยากาศความขัดแย้ง ยุติการแบ่งแยกประชาชน ทำให้การเมืองเป็นเรื่องของประชาชนทุกกลุ่ม ผลักดันแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และนโยบายของรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อประโยชน์ของประชาชน
