พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้เริ่มมีการพนันผลการเลือกตั้ง โดยการชักชวนประชาชนให้มาร่วมพนันผลการเลือกตั้ง ส.ส. ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจสอบข้อเท็จ โดยผู้ที่กระทำผิดจะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ ยังพบว่าขณะนี้มีการร้องเรียนจากประชาชนเกี่ยวกับการติดป้ายประกาศหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ ว่าบดบังทัศนวิสัยการจราจรของผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะประสานไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ดำเนินการสั่งปลดป้ายดังกล่าวออก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ และจะให้ตำรวจท้องที่ประสานกับทีมงานพรรคการเมืองผู้ติดป้ายประกาศหาเสียงปรับปรุงการติดป้าย รวมถึงรถหาเสียงที่ทำให้การจราจรติดขัด พร้อมให้แต่ละพรรคการเมืองใช้วิจารณญานพิจารณาถึงความเหมาะสมในการหาเสียง ที่อาจก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับส่วนรวม
ส่วนกรณีที่พรรคการเมือง ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัยผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ระหว่างการหาเสียงนั้น ยืนยันว่าจะไม่กระทบกับจำนวนเจ้าหน้าที่ที่ดูแลประชาชนทั่วไปแน่นอน
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีการทำลายป้ายหาเสียงว่า จากการตรวจสอบพบว่าส่วนใหญ่เหตุจะเกิดขึ้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานครด้วย ขณะเดียวกัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ติดตามเฝ้าระวังกลุ่มมือปืนรับจ้างอย่างต่อเนื่อง เน้นการตรวจเข้มในพื้นที่เลือกตั้งที่มีการแข่งขันรุนแรง และมีแนวโน้มความขัดแย้งสูง อาทิ ในพื้นที่ จ.เชียงราย นครสวรรค์ นราธิวาส ซึ่งจะต้องมีการส่งเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางเข้าไปเสริม
นอกจากนี้ ยังพบว่าขณะนี้มีการร้องเรียนจากประชาชนเกี่ยวกับการติดป้ายประกาศหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ ว่าบดบังทัศนวิสัยการจราจรของผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะประสานไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ดำเนินการสั่งปลดป้ายดังกล่าวออก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ และจะให้ตำรวจท้องที่ประสานกับทีมงานพรรคการเมืองผู้ติดป้ายประกาศหาเสียงปรับปรุงการติดป้าย รวมถึงรถหาเสียงที่ทำให้การจราจรติดขัด พร้อมให้แต่ละพรรคการเมืองใช้วิจารณญานพิจารณาถึงความเหมาะสมในการหาเสียง ที่อาจก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับส่วนรวม
ส่วนกรณีที่พรรคการเมือง ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัยผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ระหว่างการหาเสียงนั้น ยืนยันว่าจะไม่กระทบกับจำนวนเจ้าหน้าที่ที่ดูแลประชาชนทั่วไปแน่นอน
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีการทำลายป้ายหาเสียงว่า จากการตรวจสอบพบว่าส่วนใหญ่เหตุจะเกิดขึ้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานครด้วย ขณะเดียวกัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ติดตามเฝ้าระวังกลุ่มมือปืนรับจ้างอย่างต่อเนื่อง เน้นการตรวจเข้มในพื้นที่เลือกตั้งที่มีการแข่งขันรุนแรง และมีแนวโน้มความขัดแย้งสูง อาทิ ในพื้นที่ จ.เชียงราย นครสวรรค์ นราธิวาส ซึ่งจะต้องมีการส่งเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางเข้าไปเสริม