ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษา คดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทย์ยื่นฟ้อง นายธีรเดช วรรณา นายชัยวัฒน์ ทับทอง นายธานี อาจสว่าง นายสมชาย ทองเกียรติ นายพงษ์พันธ์ กาจันทร์ และนายสมชัย หงสา แนวร่วมพันธมิตรฯ เป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และข้อหาอื่นรวม 6 ข้อหา จากกรณีเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2551 กลุ่มจำเลยได้ใช้อาวุธปืนเข้ายึดรถโดยสารประจำทางสาย 53 พร้อมบังคับคนขับรถให้ขับพาไปยังทำเนียบรัฐบาล ก่อนที่ตำรวจจะเข้าช่วยเหลือและจับกุมได้ทั้ง 6 คน โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานถือว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดสำเร็จแล้ว อีกทั้งจำเลยไม่ได้นำสื่อโต้แย้งแต่อย่างใด จำเลยจึงมีความผิดฐานร่วมกันข่มขืนใจและกักขังหน่วงเหนี่ยว พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ พิพากษาจำคุกคนละ 3 ปี ปรับ 100 บาท แต่คำให้การชั้นพิจารณาเป็นประโยชน์ลดโทษ 1 ใน 3 เหลือจำคุกคนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา และปรับคนละ 66 บาท ส่วนจำเลยที่ 1 ต้องรับโทษฐานมีวิทยุสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ปรับอีก 4,000 บาท แต่ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงเหลือปรับ 2,000 บาท ส่วนข้อหาอื่นให้ยกฟ้อง
โดยศาลได้จำหน่ายคดีในส่วนของ นายธานี อาจสว่าง จำเลยที่ 3 ออกจากสายระบบ เนื่องจากนายธานีเสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา หลังฟังคำพิพากษาจำเลยทั้ง 5 จึงขอประกันตัว เพื่อสู้คดีชั้นอุทธรณ์ในวงเงินคนละ 200,000 บาท
โดยศาลได้จำหน่ายคดีในส่วนของ นายธานี อาจสว่าง จำเลยที่ 3 ออกจากสายระบบ เนื่องจากนายธานีเสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา หลังฟังคำพิพากษาจำเลยทั้ง 5 จึงขอประกันตัว เพื่อสู้คดีชั้นอุทธรณ์ในวงเงินคนละ 200,000 บาท