ดัชนี SET ปรับตัวลดลง จากแรงขายของต่างชาติและราคาน้ำมันที่ร่วงลง โดยดัชนีปิดที่ระดับ 1,050.85 จุด ลดลง 3.91% จากสัปดาห์ก่อน ด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 30.99% จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 40,179.07 ล้านบาท โดยนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนสถาบัน และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 285.27 จุด ลดลง 2.91% จากสัปดาห์ก่อน
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงในวันอังคาร โดยมีแรงขายทำกำไรในหุ้นหลัก ทั้งกลุ่มพลังงาน และแบงก์ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อของไทยมีระดับสูงกว่าคาด แต่ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในวันพุธ จากแรงซื้อหุ้นกลับคืน หลังราคาปรับลดลงไปมาก อย่างไรก็ดี หุ้นไทยปรับลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศในช่วงท้ายสัปดาห์ หลังราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตลาดโลกปรับลง โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงเกือบ 10%
สำหรับแนวโน้มในสัปดาห์ระหว่างวันที่ 9-13 พ.ค. 2554 บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด และบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีมีโอกาสปรับตัวลดลง ตามปัจจัยภายนอกประเทศ โดยเฉพาะการปรับฐานของราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศและเงินทุนเคลื่อนย้าย สถานการณ์การเมืองในประเทศ โดยเฉพาะการยุบสภาฯ ตลอดจนการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยเฉพาะสหรัฐฯ อาทิ ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีราคาผู้บริโภค และข้อมูลงบประมาณของรัฐบาลกลาง ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 1,044 และ 1,000 จุด ตามลำดับ ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 1,059 และ 1,064 จุด
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงในวันอังคาร โดยมีแรงขายทำกำไรในหุ้นหลัก ทั้งกลุ่มพลังงาน และแบงก์ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อของไทยมีระดับสูงกว่าคาด แต่ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในวันพุธ จากแรงซื้อหุ้นกลับคืน หลังราคาปรับลดลงไปมาก อย่างไรก็ดี หุ้นไทยปรับลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศในช่วงท้ายสัปดาห์ หลังราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตลาดโลกปรับลง โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงเกือบ 10%
สำหรับแนวโน้มในสัปดาห์ระหว่างวันที่ 9-13 พ.ค. 2554 บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด และบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีมีโอกาสปรับตัวลดลง ตามปัจจัยภายนอกประเทศ โดยเฉพาะการปรับฐานของราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศและเงินทุนเคลื่อนย้าย สถานการณ์การเมืองในประเทศ โดยเฉพาะการยุบสภาฯ ตลอดจนการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยเฉพาะสหรัฐฯ อาทิ ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีราคาผู้บริโภค และข้อมูลงบประมาณของรัฐบาลกลาง ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 1,044 และ 1,000 จุด ตามลำดับ ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 1,059 และ 1,064 จุด
