นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ชะลอการส่งออกไข่ไก่เป็นเวลา 2 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม -มิถุนายน เพื่อแก้ปัญหาไข่ไก่ขาดตลาด และราคาแพง รวมทั้งสถานการณ์โรคหลอดลมอักเสบในไก่ไข่เริ่มคลี่คลาย ทำให้ขณะนี้ราคาไข่ไก่เริ่มลดลงแล้ว ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ขอความร่วมมือให้ฟาร์มไข่ไก่ ที่มีแม่ไก่มากกว่า 5 หมื่นตัวขึ้นไป รายงานปริมาณไข่ไก่ต่อกระทรวงพาณิชย์ทุกสัปดาห์ เพื่อให้ทราบถึงปริมาณที่แท้จริง
นายมาโนช ชูทับทิม นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ ระบุว่า ราคาไข่ไก่เริ่มลดลง เนื่องจากการนำเข้าแม่พันธุ์ไก่ตั้งแต่กลางปี 2553 กว่า 4 แสนตัว ซึ่งจะทยอยให้ผลผลิต และกลางปีนี้ปริมาณไข่ไก่จะออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น โดยขณะนี้มีปริมาณไข่ไก่วันละ 25-26 ล้านฟอง ส่งผลให้ราคาขายปลีกในตลาดทั่วไปลดลง โดยไข่ไก่เบอร์ 0 นั้นอยู่ที่ฟองละ 3.90 บาท เบอร์ 1 ฟองละ 3.70 บาท เบอร์ 2 ฟองละ 3.60 บาท
นายมาโนช กล่าวต่อไปว่า ปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อราคาไข่ไก่ให้ปรับตัวสูงขึ้นคือ ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ โดยเฉพาะข้าวโพด ซึ่งพบว่าพื้นที่เพาะปลูกลดลง จะทำให้ข้าวโพดมีราคาสูง โดยคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไข่ไก่อยู่ระหว่างการศึกษาโครงสร้างราคาอาหารสัตว์ รวมทั้งหามาตรการในการช่วยเหลือ
นายมาโนช ชูทับทิม นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ ระบุว่า ราคาไข่ไก่เริ่มลดลง เนื่องจากการนำเข้าแม่พันธุ์ไก่ตั้งแต่กลางปี 2553 กว่า 4 แสนตัว ซึ่งจะทยอยให้ผลผลิต และกลางปีนี้ปริมาณไข่ไก่จะออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น โดยขณะนี้มีปริมาณไข่ไก่วันละ 25-26 ล้านฟอง ส่งผลให้ราคาขายปลีกในตลาดทั่วไปลดลง โดยไข่ไก่เบอร์ 0 นั้นอยู่ที่ฟองละ 3.90 บาท เบอร์ 1 ฟองละ 3.70 บาท เบอร์ 2 ฟองละ 3.60 บาท
นายมาโนช กล่าวต่อไปว่า ปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อราคาไข่ไก่ให้ปรับตัวสูงขึ้นคือ ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ โดยเฉพาะข้าวโพด ซึ่งพบว่าพื้นที่เพาะปลูกลดลง จะทำให้ข้าวโพดมีราคาสูง โดยคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไข่ไก่อยู่ระหว่างการศึกษาโครงสร้างราคาอาหารสัตว์ รวมทั้งหามาตรการในการช่วยเหลือ
