นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. กล่าวถึงมติของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช. ให้ทยอยปรับราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม หรือ แอลพีจี ไตรมาสละ 1 ครั้ง จำนวน 3 บาทต่อกิโลกรัม รวมทั้งปี 12 บาท ว่าที่ประชุม ส.อ.ท.หารือถึงปัญหาดังกล่าว ซึ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุนของอุตสาหกรรมเซรามิก แก้วและกระจก เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 60-70 ดังนั้นจึงมีมติให้เสนอมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประกอบการทั้ง 2 กลุ่ม โดยขอให้ผู้ที่ใช้ก๊าซแอลพีจีที่ติดตั้งถังชนิดหลอด ขนาด 48 กิโลกรัม ไม่เกิน 20 ถัง สามารถใช้แอลพีจีได้ในราคาเดิม แทนของเดิมที่กำหนดติดตั้งไว้เพียง 10 ถังต่อผู้ประกอบการที่ใช้ถังหลอด ให้ใช้ระบบโควตาคูปอง ซึ่งมีวงเงินสนับสนุน ประมาณ 1,800 ล้านบาทต่อปี โดยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถใช้แอลพีจีในราคาเดิมได้อีก 3 ปี และหากต้องปรับขึ้นราคาภายใน 3 ปี ขอให้พิจารณาปรับขึ้นเฉพาะอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ปีละไม่เกิน 1 บาทต่อกิโลกรัม
อย่างไรก็ตาม วันที่ 6 พฤษภาคมนี้ ส.อ.ท.จะหารือร่วมกับกระทรวงพลังงาน ถึงข้อเสนอดังกล่าว คาดว่าได้ข้อสรุปชัดเจน
อย่างไรก็ตาม วันที่ 6 พฤษภาคมนี้ ส.อ.ท.จะหารือร่วมกับกระทรวงพลังงาน ถึงข้อเสนอดังกล่าว คาดว่าได้ข้อสรุปชัดเจน