นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผย ถึงกรณีที่ นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ไม่ร่วมลงชื่อในพันธสัญญาที่ทำร่วมกับ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เกี่ยวกับการหารือเรื่องการหาเสียงกับสถาบัน โดยระบุว่า ส่วนตัวเชื่อ นายชุมพลน่าจะเดินทางไปรับทราบรับฟังความคิดเห็น ก่อนที่จะนำมาหารือในพรรคอีกครั้ง ซึ่งในหลักการนั้นไม่ขัดข้องอะไร เพียงแต่ต้องมาหารือในพรรคก่อน ซึ่งยืนยันว่า พันธสัญญาเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่ถึงแม้พรรคชาติไทยพัฒนา ไม่ได้ลงนามด้วย แต่เห็นด้วยกับเรื่องนี้เสมอ โดยอยากให้ กกต. ทำหน้าที่ตนเองอย่างเข้มแข็ง คัดเลือกคนดีเข้ามาทำหน้าที่ ซึ่งที่ตนเองห่วงคือ เจ้าหน้าที่ที่อาจมีไม่เพียงพอ เนื่องจากตนเคยเจอมากับตัวเองว่า พบผู้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง แต่พอไปแจ้ง ปรากฏว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่เพียงพอ กลับให้ไปถ่ายภาพมาแจ้งแทน ขณะที่ เรื่องของการพิจารณาใบแดง ใบเหลือง ต่าง ๆ ต้องมีความชัดเจน และตอบคำถามที่ตามมาได้
อย่างไรก็ตาม นายสมศักดิ์ ย้ำด้วยว่า การนำสถาบันมาเกี่ยวการหาเสียงนั้น ที่ผ่านมาไม่เคยมีการกระทำกันอย่างนั้นอยู่แล้ว แต่ในนโยบายไม่เกี่ยวกัน ซึ่งทุกพรรคก็เทิดทูนและปกป้องสถาบันด้วยกันทั้งนั้น
ขณะที่ เรื่องการจับมือร่วมกับ พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อตั้งรัฐบาลต่อนั้น ยืนยันว่า พรรคไม่เคยมีสัญญา หรือพันธะอะไรในเรื่องนี้ แต่การพิจารณาตัดสินใจการทำงานต้องมีรายละเอียดมากกว่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องของอนาคตและยืนยันว่า พรรคชาติไทยพัฒนา ไม่มีปัญหากับพรรคภูมิใจไทย แต่ยอมรับว่า เจตนารมณ์นั้นเหมือนกัน แต่อุดมการณ์ทางการเมืองอาจแตกต่างกันบ้าง
อย่างไรก็ตาม นายสมศักดิ์ ย้ำด้วยว่า การนำสถาบันมาเกี่ยวการหาเสียงนั้น ที่ผ่านมาไม่เคยมีการกระทำกันอย่างนั้นอยู่แล้ว แต่ในนโยบายไม่เกี่ยวกัน ซึ่งทุกพรรคก็เทิดทูนและปกป้องสถาบันด้วยกันทั้งนั้น
ขณะที่ เรื่องการจับมือร่วมกับ พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อตั้งรัฐบาลต่อนั้น ยืนยันว่า พรรคไม่เคยมีสัญญา หรือพันธะอะไรในเรื่องนี้ แต่การพิจารณาตัดสินใจการทำงานต้องมีรายละเอียดมากกว่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องของอนาคตและยืนยันว่า พรรคชาติไทยพัฒนา ไม่มีปัญหากับพรรคภูมิใจไทย แต่ยอมรับว่า เจตนารมณ์นั้นเหมือนกัน แต่อุดมการณ์ทางการเมืองอาจแตกต่างกันบ้าง