ความหวาดผวาเกี่ยวกับวิกฤตนิวเคลียร์ที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่น จุดชนวนให้พรรคของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี ต้องพ่ายแพ้อย่างยับเยินในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นเมื่อวันอาทิตย์(27) โดยที่พรรคกรีนส์ที่ต่อต้านโรงไฟฟ้าปรมาณูคือผู้ได้คะแนนเสียงเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัว อย่างไรก็ตาม พวกนักวิเคราะห์ให้ความเห็นวันจันทร์(28)ว่า รัฐบาลของแมร์เคิลแม้จะอ่อนแอลงแต่ก็จะยังอยู่รอดต่อไปได้
พรรคคริสเตียน เดโมแครต (ซีดียู) ของแมร์เคิล ได้เป็นผู้ปกครองรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทมแบร์ก ซึ่งเป็นรัฐที่มั่งคั่งร่ำรวยโดยที่มีขนาดเศรษฐกิจเท่ากับประเทศเบลเยียม ตลอดระยะเวลา 58 ปีที่ผ่านมา ทว่าการที่เธอแสดงอาการชักเข้าชักออกในนโยบายเรื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ก่อนหน้าการลงคะแนนเสียงครั้งสำคัญคราวนี้ ทำให้พวกผู้ออกเสียงเกิดความสับสนและยังคงหวาดระแวงนโยบายนี้ของเธอ
ผลการลงคะแนนเมื่อวันอาทิตย์ปรากฏว่า พรรคกรีนส์ได้คะแนนเสียงสูงสุดเป็นประวัติการณ์ คือ 24% เพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวจากการคะแนนในปี 2006 และน่าจะสร้างประวัติศาสตร์โดยเป็นครั้งแรกที่พรรคจะเป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาลผสมทำการปกครองรัฐนี้ ร่วมกับพรรคโซเชียล เดโมแครต ซึ่งได้คะแนนโหวต 23%
พรรคฝ่ายค้านทั้ง 2 สามารถกำชัยเหนือพรรคของแมร์เคิล และพรรคฟรี เดโมแครต (เอฟดีพี) ที่เป็นหุ้นส่วนข้างน้อยอยู่ในคณะรัฐบาลผสมทั้งของรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทมแบร์ก และของประเทศเยอรมนี โดย 2 พรรคร่วมรัฐบาลนี้ได้เสียงรวมกันอยู่ที่ 44%
พวกผู้ออกเสียงถึง 45% ระบุว่า พวกเขาเห็นว่าเรื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์คือประเด็นสำคัญที่สุดของการเลือกตั้งท้องถิ่นคราวนี้ สืบเนื่องจากวิกฤตนิวเคลียร์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในญี่ปุ่น
พรรคคริสเตียน เดโมแครต (ซีดียู) ของแมร์เคิล ได้เป็นผู้ปกครองรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทมแบร์ก ซึ่งเป็นรัฐที่มั่งคั่งร่ำรวยโดยที่มีขนาดเศรษฐกิจเท่ากับประเทศเบลเยียม ตลอดระยะเวลา 58 ปีที่ผ่านมา ทว่าการที่เธอแสดงอาการชักเข้าชักออกในนโยบายเรื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ก่อนหน้าการลงคะแนนเสียงครั้งสำคัญคราวนี้ ทำให้พวกผู้ออกเสียงเกิดความสับสนและยังคงหวาดระแวงนโยบายนี้ของเธอ
ผลการลงคะแนนเมื่อวันอาทิตย์ปรากฏว่า พรรคกรีนส์ได้คะแนนเสียงสูงสุดเป็นประวัติการณ์ คือ 24% เพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวจากการคะแนนในปี 2006 และน่าจะสร้างประวัติศาสตร์โดยเป็นครั้งแรกที่พรรคจะเป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาลผสมทำการปกครองรัฐนี้ ร่วมกับพรรคโซเชียล เดโมแครต ซึ่งได้คะแนนโหวต 23%
พรรคฝ่ายค้านทั้ง 2 สามารถกำชัยเหนือพรรคของแมร์เคิล และพรรคฟรี เดโมแครต (เอฟดีพี) ที่เป็นหุ้นส่วนข้างน้อยอยู่ในคณะรัฐบาลผสมทั้งของรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทมแบร์ก และของประเทศเยอรมนี โดย 2 พรรคร่วมรัฐบาลนี้ได้เสียงรวมกันอยู่ที่ 44%
พวกผู้ออกเสียงถึง 45% ระบุว่า พวกเขาเห็นว่าเรื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์คือประเด็นสำคัญที่สุดของการเลือกตั้งท้องถิ่นคราวนี้ สืบเนื่องจากวิกฤตนิวเคลียร์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในญี่ปุ่น
