สถานการณ์โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ หมายเลข 1 ใน จ.ฟูกุชิมะ ยังคงต้องจับตามอง ล่าสุดเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่บริษัทเทปโก ผู้ดูแลโรงไฟฟ้า กลับเข้าไปปฏิบัติหน้าที่กู้ระบบไฟฟ้า และระบบหล่อเย็นของเตาปฏิกรณ์ทั้ง 6 เตา หลังจากเมื่อวานนี้ต้องหยุดการทำงาน เนื่องจากมีควันสีดำลอยออกมาจากเตาปฏิกรณ์ที่ 3 ต้องอพยพเจ้าหน้าที่ออกจากโรงไฟฟ้า เพื่อความปลอดภัย เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุของควันดำดังกล่าว เพราะไม่พบว่าไฟไหม้ และระดับกัมมันตรังสีเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด ขณะที่ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ยังคงใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงใส่เตาปฏิกรณ์ที่ 3
นอกจากนี้ มีรายงานจากสำนักข่าวเอ็นเอชเค ว่าพบไอน้ำลอยออกมาจากเตาปฏิกรณ์ที่ 1-4 ซึ่งยังไม่มีรายงานว่าเกิดจากอะไร
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเฝ้าตรวจสอบระดับความเข้มข้นของกัมมันตรังสี ในพื้นที่รัศมี 20-60 กิโลเมตรรอบโรงไฟฟ้า เริ่มต้นเก็บตัวอย่างดินไปตรวจสอบปริมาณกัมมันนรังสีแล้ว และเตรียมตรวจสอบระดับกัมมันตรังสีในแหล่งน้ำ ภายในรัศมี 30 กิโลเมตร รอบโรงไฟฟ้า
ขณะที่ สำนักข่าวเอพี นำภาพถ่ายขณะที่เจ้าหน้าที่ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หมายเลข 1 กำลังเร่งแก้ปัญหาเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ท่ามกลางความมืด มีเพียงแสงไฟจากหลอดไฟและไฟฉายใช้ในการทำงานเท่านั้น
ส่วนกระแสการหวาดวิตกต่อการปนเปื้อนของกัมมันตรังสีในน้ำประปากรุงโตเกียว หลังจากทางการตรวจพบและประกาศเตือนว่า ระดับกัมมันตรังสีที่ปนเปื้อนเป็นอันตรายต่อเด็กทารก ส่งผลให้ประชาชนแห่ไปซื้อน้ำบรรจุขวดเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนน้ำดื่มบรรจุขวด จนทางการญี่ปุ่นต้องออกมาเตือนประชาชนไม่ให้แตกตื่นกับคำเตือนดังกล่าว
สำหรับความเคลื่อนไหวของประเทศต่างๆ ต่อการปนเปื้อนของกัมมันตรังสีในอาหารนั้น สหรัฐฯ ฮ่องกง และออสเตรเลีย ออกมาตรการห้ามนำเข้าสินค้าจำพวกนม ผัก และผลไม้สด จากจังหวัดต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ทั้ง ฟูกุชิมะ อิบารากิ โตชิกิ และกันมะ ขณะที่ แคนาดาเป็นประเทศล่าสุดที่ออกมาเข้มงวดการตรวจสอบสินค้าและอาหารที่มาจากญี่ปุ่น แต่ยังไม่ประกาศห้ามนำเข้า
นอกจากนั้น เช้าวันนี้มีรายงานเกิดอาฟเตอร์ช็อกหลายครั้ง ทางตะวันออกของกรุงโตเกียว รุนแรงที่สุดวัดได้ 4.9 ริกเตอร์ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตและสูญหาย ล่าสุดพุ่งขึ้นเป็น 25,600 คน มูลค่าความเสียหาย สูงถึง 300,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
นอกจากนี้ มีรายงานจากสำนักข่าวเอ็นเอชเค ว่าพบไอน้ำลอยออกมาจากเตาปฏิกรณ์ที่ 1-4 ซึ่งยังไม่มีรายงานว่าเกิดจากอะไร
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเฝ้าตรวจสอบระดับความเข้มข้นของกัมมันตรังสี ในพื้นที่รัศมี 20-60 กิโลเมตรรอบโรงไฟฟ้า เริ่มต้นเก็บตัวอย่างดินไปตรวจสอบปริมาณกัมมันนรังสีแล้ว และเตรียมตรวจสอบระดับกัมมันตรังสีในแหล่งน้ำ ภายในรัศมี 30 กิโลเมตร รอบโรงไฟฟ้า
ขณะที่ สำนักข่าวเอพี นำภาพถ่ายขณะที่เจ้าหน้าที่ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หมายเลข 1 กำลังเร่งแก้ปัญหาเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ท่ามกลางความมืด มีเพียงแสงไฟจากหลอดไฟและไฟฉายใช้ในการทำงานเท่านั้น
ส่วนกระแสการหวาดวิตกต่อการปนเปื้อนของกัมมันตรังสีในน้ำประปากรุงโตเกียว หลังจากทางการตรวจพบและประกาศเตือนว่า ระดับกัมมันตรังสีที่ปนเปื้อนเป็นอันตรายต่อเด็กทารก ส่งผลให้ประชาชนแห่ไปซื้อน้ำบรรจุขวดเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนน้ำดื่มบรรจุขวด จนทางการญี่ปุ่นต้องออกมาเตือนประชาชนไม่ให้แตกตื่นกับคำเตือนดังกล่าว
สำหรับความเคลื่อนไหวของประเทศต่างๆ ต่อการปนเปื้อนของกัมมันตรังสีในอาหารนั้น สหรัฐฯ ฮ่องกง และออสเตรเลีย ออกมาตรการห้ามนำเข้าสินค้าจำพวกนม ผัก และผลไม้สด จากจังหวัดต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ทั้ง ฟูกุชิมะ อิบารากิ โตชิกิ และกันมะ ขณะที่ แคนาดาเป็นประเทศล่าสุดที่ออกมาเข้มงวดการตรวจสอบสินค้าและอาหารที่มาจากญี่ปุ่น แต่ยังไม่ประกาศห้ามนำเข้า
นอกจากนั้น เช้าวันนี้มีรายงานเกิดอาฟเตอร์ช็อกหลายครั้ง ทางตะวันออกของกรุงโตเกียว รุนแรงที่สุดวัดได้ 4.9 ริกเตอร์ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตและสูญหาย ล่าสุดพุ่งขึ้นเป็น 25,600 คน มูลค่าความเสียหาย สูงถึง 300,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
