พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้า กรณีที่นายทวิชพณ บุญมายน อายุ 50 ปี หัวหน้าฝ่ายเทศกิจเขตบางรัก ร้องเรียนให้ตรวจสอบเรื่อง เจ้าหน้าที่เทศกิจเขตบางรัก ปลอมใบเสร็จเรียกเก็บเงินจากพ่อค้าแม่ค้า รวมทั้งถูกข่มขู่คุกคามต่อชีวิตว่า หลังได้รับเรื่องได้สั่งการให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ หรือ ปปป. ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยรวบรวมพยานหลักฐานแล้วหากเจ้าหน้าที่รายใดเกี่ยวข้องให้ดำเนินการไปตามขั้นตอนกฎหมาย ก่อนส่งสำนวนให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ดำเนินการ ภายใน 30 วัน
ด้าน พ.ต.อ.วีระพันธ์ ทันใจ รองผู้บังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ช่วยราชการ ปปป. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวว่า ขั้นตอนการสอบสวนในเบื้องต้นนั้น พนักงานสอบสวนจะลงพื้นที่ตรวจสอบหลักฐาน และสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ค้าที่ได้รับใบเสร็จปลอม เพื่อนำใบเสร็จมาตรวจเปรียบเทียบกับของจริง ว่าเป็นของจริงหรือของปลอม พร้อมกันนี้ พนักงานสอบสวนจะตรวจสอบใบเสร็จว่าจัดพิมพ์ขึ้นจากสถานที่ใด จากการตรวจสอบข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในเบื้องต้นพบว่ากลุ่มผู้ค้าพื้นที่เขตบางรัก มีประมาณ 2,000 ร้านค้า แต่ละร้านเสียค่าปรับให้เจ้าหน้าที่เทศกิจ เดือนละประมาณ 1,000 บาท แต่กลับเขียนใบเสร็จค่าปรับเพียงแค่ 200 บาทเท่านั้น
ด้าน พ.ต.อ.วีระพันธ์ ทันใจ รองผู้บังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ช่วยราชการ ปปป. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวว่า ขั้นตอนการสอบสวนในเบื้องต้นนั้น พนักงานสอบสวนจะลงพื้นที่ตรวจสอบหลักฐาน และสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ค้าที่ได้รับใบเสร็จปลอม เพื่อนำใบเสร็จมาตรวจเปรียบเทียบกับของจริง ว่าเป็นของจริงหรือของปลอม พร้อมกันนี้ พนักงานสอบสวนจะตรวจสอบใบเสร็จว่าจัดพิมพ์ขึ้นจากสถานที่ใด จากการตรวจสอบข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในเบื้องต้นพบว่ากลุ่มผู้ค้าพื้นที่เขตบางรัก มีประมาณ 2,000 ร้านค้า แต่ละร้านเสียค่าปรับให้เจ้าหน้าที่เทศกิจ เดือนละประมาณ 1,000 บาท แต่กลับเขียนใบเสร็จค่าปรับเพียงแค่ 200 บาทเท่านั้น
