นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ประเทศไทยนับเป็นแหล่งผลิตผลไม้เมืองร้อนที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก สามารถส่งออก นำรายได้เข้าสู่ประเทศปีละกว่า 6 หมื่นล้านบาท โดยมีกรมส่งเสริมการส่งออกให้การสนับสนุนการส่งออกสินค้าผลไม้ไทย โดยเฉพาะ ลำไย ลิ้นจี่ ทุเรียน มังคุด เป็นต้น
จากการคาดการณ์การส่งออกผลไม้ในปีนี้ที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น และผลผลิตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการส่งออกจึงได้เตรียมแผนส่งเสริมและผลักดันการส่งออกผลไม้ไทย โดยเชิญผู้ซื้อและผู้นำเข้าจากตลาดต่างประเทศ ได้แก่ จีน อินเดีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ กัมพูชา และเวียดนาม มาร่วมเจรจาการค้ากับผู้ส่งออก และกลุ่มสหกรณ์ผู้ปลูกผลไม้ กว่า 70 บริษัท ในการประชุมเจรจาซื้อขายผลไม้สดและแปรรูป ประจำปี 2554 วันนี้ ในงานเมดอินไทยแลนด์ ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี
ทั้งนี้ จากมาตรการผลักดันการส่งออกผลไม้ไทย ของกรมส่งเสริมการส่งออก ผ่านกิจกรรมที่กล่าวมานั้น คาดว่าจะสามารถรองรับผลผลิตผลไม้ที่จะออกสู่ตลาดได้ พร้อมทั้งช่วยสร้างรายได้ และสร้างเสถียรภาพราคาให้กลุ่มเกษตรกรชาวสวนผลไม้ ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง และเป็นประโยชน์ต่อการขยายตลาดส่งออกผลไม้ของไทยอีกด้วย
โดยกรมส่งเสริมการส่งออก ตั้งเป้าว่า จะมียอดการสั่งซื้อผลไม้เบื้องต้น ระหว่างประชุมเจรจา ปริมาณกว่า 6 หมื่นตัน และมีการสั่งซื้อตลอดฤดูกาล ทำให้การส่งออกผลไม้สดและแปรรูปเพิ่มขึ้นจากปี 2553 ร้อยละ 10 โดยมีมูลค่ากว่า 6 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออกผลไม้สด มูลค่า 1.8 หมื่นล้านบาท และการส่งออกผลไม้แปรรูป มูลค่า 4.68 หมื่นล้านบาท
จากการคาดการณ์การส่งออกผลไม้ในปีนี้ที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น และผลผลิตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการส่งออกจึงได้เตรียมแผนส่งเสริมและผลักดันการส่งออกผลไม้ไทย โดยเชิญผู้ซื้อและผู้นำเข้าจากตลาดต่างประเทศ ได้แก่ จีน อินเดีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ กัมพูชา และเวียดนาม มาร่วมเจรจาการค้ากับผู้ส่งออก และกลุ่มสหกรณ์ผู้ปลูกผลไม้ กว่า 70 บริษัท ในการประชุมเจรจาซื้อขายผลไม้สดและแปรรูป ประจำปี 2554 วันนี้ ในงานเมดอินไทยแลนด์ ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี
ทั้งนี้ จากมาตรการผลักดันการส่งออกผลไม้ไทย ของกรมส่งเสริมการส่งออก ผ่านกิจกรรมที่กล่าวมานั้น คาดว่าจะสามารถรองรับผลผลิตผลไม้ที่จะออกสู่ตลาดได้ พร้อมทั้งช่วยสร้างรายได้ และสร้างเสถียรภาพราคาให้กลุ่มเกษตรกรชาวสวนผลไม้ ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง และเป็นประโยชน์ต่อการขยายตลาดส่งออกผลไม้ของไทยอีกด้วย
โดยกรมส่งเสริมการส่งออก ตั้งเป้าว่า จะมียอดการสั่งซื้อผลไม้เบื้องต้น ระหว่างประชุมเจรจา ปริมาณกว่า 6 หมื่นตัน และมีการสั่งซื้อตลอดฤดูกาล ทำให้การส่งออกผลไม้สดและแปรรูปเพิ่มขึ้นจากปี 2553 ร้อยละ 10 โดยมีมูลค่ากว่า 6 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออกผลไม้สด มูลค่า 1.8 หมื่นล้านบาท และการส่งออกผลไม้แปรรูป มูลค่า 4.68 หมื่นล้านบาท
