นายสตีฟ จ๊อบส์ ประธานกรรมการบริหาร ของแอ๊ปเปิ้ล ได้เปิดตัวไอแพด 2 (iPad 2) ที่จัดขึ้นในวันที่ 2 มีนาคม ที่ซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ โดย iPad 2 ได้ปรับคุณสมบัติของเครื่องเปลี่ยนมาใช้ซีพียู เอ5 แบบดูอัลคอร์ ที่ให้ความเร็วในการทำงานเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า และแสดงผลภาพกราฟฟิกเร็วขึ้น 9 เท่า แต่กินไฟน้อยลง พร้อมกับเพิ่มกล้องหน้า และหลัง สำหรับฟังก์ชั่นวิดีโอ คอลล์ ส่วนตัวเครื่องก็ปรับดีไซน์ให้บางลงจาก 13.4 ม.ม.เหลือ 8.8 ม.ม. หรือบางลง 33% ซึ่งเป็นขนาดที่บางกว่าไอโฟน 4
ส่วนแบตเตอร์รี่ยังคงเหมือนเดิมคือ สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 10 ชั่วโมง แต่ได้เพิ่มตัวเครื่องเคสสีขาวเป็นตัวเลือก จะเริ่มวางขายพร้อมกันครั้งแรกในสหรัฐฯ วันที่ 11 มีนาคมนี้ ด้วยราคาเริ่มต้นเท่ากับรุ่นเดิมคือ 499 ดอลลาร์ (รุ่นไวไฟ 16 กิกะไบต์) , 599 ดอลลาร์ (รุ่นไวไฟ 32 กิกะไบต์) , 699 ดอลลาร์ (รุ่นไวไฟ 64 กิกะไบต์) ก่อนจะเริ่มวางขายในอีก 26 ประเทศ (ไม่รวมประเทศไทย)ในวันที่ 25 มีนาคม
นอกจากนี้ แอ๊ปเปิ้ล ได้ประกาศอัพเดทซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นใหม่ "iOS 4.3" ที่ทำงานได้เร็วขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถให้กับโปรแกรมซาฟารี และการแชร์ข้อมูลผ่านโปรแกรม iTunes, ไวไฟ, แอร์เพลย์ และเพอร์ซัลนอล ฮอตสปอตที่เคยมีในไอโฟน 4 เท่านั้น สามารถดาวน์โหลดได้ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคมนี้
แอ๊ปเปิ้ลยังได้ดีไซน์แผ่นปิดหน้าจอ "สมาร์ท เคส" ไม่ต้องสวมเคสเหมือนกับไอแพดรุ่นแรก ซึ่งมีเสียงสะท้อนจากผู้ชมว่าอาจเป็นการปิดฉากอุตสาหกรรมขายอุปกรณ์เสริมชิ้นสำคัญอย่าง "เคส" ไปเลย
ทั้งนี้ ในปี 2553 แอ๊ปเปิ้ลทำยอดขาย iPad ได้ 15 ล้านเครื่องภายในเวลาเพียง 9 เดือนหลังวางขายในเดือนเมษายน 2553 ซึ่งมากกว่ายอดขายแทบเล็ต พีซีทั้งตลาด
ส่วนแบตเตอร์รี่ยังคงเหมือนเดิมคือ สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 10 ชั่วโมง แต่ได้เพิ่มตัวเครื่องเคสสีขาวเป็นตัวเลือก จะเริ่มวางขายพร้อมกันครั้งแรกในสหรัฐฯ วันที่ 11 มีนาคมนี้ ด้วยราคาเริ่มต้นเท่ากับรุ่นเดิมคือ 499 ดอลลาร์ (รุ่นไวไฟ 16 กิกะไบต์) , 599 ดอลลาร์ (รุ่นไวไฟ 32 กิกะไบต์) , 699 ดอลลาร์ (รุ่นไวไฟ 64 กิกะไบต์) ก่อนจะเริ่มวางขายในอีก 26 ประเทศ (ไม่รวมประเทศไทย)ในวันที่ 25 มีนาคม
นอกจากนี้ แอ๊ปเปิ้ล ได้ประกาศอัพเดทซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นใหม่ "iOS 4.3" ที่ทำงานได้เร็วขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถให้กับโปรแกรมซาฟารี และการแชร์ข้อมูลผ่านโปรแกรม iTunes, ไวไฟ, แอร์เพลย์ และเพอร์ซัลนอล ฮอตสปอตที่เคยมีในไอโฟน 4 เท่านั้น สามารถดาวน์โหลดได้ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคมนี้
แอ๊ปเปิ้ลยังได้ดีไซน์แผ่นปิดหน้าจอ "สมาร์ท เคส" ไม่ต้องสวมเคสเหมือนกับไอแพดรุ่นแรก ซึ่งมีเสียงสะท้อนจากผู้ชมว่าอาจเป็นการปิดฉากอุตสาหกรรมขายอุปกรณ์เสริมชิ้นสำคัญอย่าง "เคส" ไปเลย
ทั้งนี้ ในปี 2553 แอ๊ปเปิ้ลทำยอดขาย iPad ได้ 15 ล้านเครื่องภายในเวลาเพียง 9 เดือนหลังวางขายในเดือนเมษายน 2553 ซึ่งมากกว่ายอดขายแทบเล็ต พีซีทั้งตลาด