นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในระหว่างปี 2553-2554 กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 40,000 ล้านบาท ให้สถานบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศเป็นกรณีพิเศษจากงบไทยเข้มแข็ง เพื่อสร้างอาคารหลังใหม่ให้โรงพยาบาล และปรับปรุงโรงพยาบาลโดยเฉพาะแผนงานลดความแออัดในโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ โดยมีแนวทางการแก้ปัญหา 3 รูปแบบหลัก ได้แก่ 1. การเพิ่มพื้นที่ให้บริการ 2.การเพิ่มเวลาตรวจผู้ป่วย และ 3.การพัฒนาระบบส่งต่อผู้ป่วย นอกจากนี้ จะพัฒนาโรงพยาบาลชุมชน ให้เป็นโรงพยาบาลชุมชนขนาดใหญ่ เพื่อผู้ป่วยไม่ต้องไปที่โรงพยาบาลจังหวัด ยกเว้นกรณีโรคที่รักษายาก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวอีกว่า ในส่วนของบุคลากร จะมีการจัดสรรให้ใหม่และเกลี่ยตามความเหมาะสม ตั้งเป้าภายใน 6 ปี แพทย์จะเพียงพอตามสัดส่วนมาตรฐานสากล และภายในเดือนมีนาคม 2554 จะได้ข้อสรุปการพัฒนาโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ให้มีขีดความสามารถเฉพาะทาง โดยจะใช้วิธีรวมพื้นที่เป็นรายภาค และกำหนดว่าในพื้นที่แต่ละภาคควรจะเป็นศูนย์เชี่ยวชาญด้านใด ซึ่งจะทำให้แต่ละภาคมีความเป็นเลิศเฉพาะทางครบถ้วนภายในพื้นที่ตนเอง ถ้ามีผู้ป่วยก็สามารถส่งต่อไปได้ ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนมีหลักประกันด้านการรักษาที่ดีขึ้น ทำได้จริงและรวดเร็ว ไม่จำเป็นต้องพัฒนาโรงพยาบาลทุกแห่งให้เชี่ยวชาญทุกด้าน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวอีกว่า ในส่วนของบุคลากร จะมีการจัดสรรให้ใหม่และเกลี่ยตามความเหมาะสม ตั้งเป้าภายใน 6 ปี แพทย์จะเพียงพอตามสัดส่วนมาตรฐานสากล และภายในเดือนมีนาคม 2554 จะได้ข้อสรุปการพัฒนาโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ให้มีขีดความสามารถเฉพาะทาง โดยจะใช้วิธีรวมพื้นที่เป็นรายภาค และกำหนดว่าในพื้นที่แต่ละภาคควรจะเป็นศูนย์เชี่ยวชาญด้านใด ซึ่งจะทำให้แต่ละภาคมีความเป็นเลิศเฉพาะทางครบถ้วนภายในพื้นที่ตนเอง ถ้ามีผู้ป่วยก็สามารถส่งต่อไปได้ ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนมีหลักประกันด้านการรักษาที่ดีขึ้น ทำได้จริงและรวดเร็ว ไม่จำเป็นต้องพัฒนาโรงพยาบาลทุกแห่งให้เชี่ยวชาญทุกด้าน