สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. เปิดเผยตัวเลขการขยายตัวเศรษฐกิจเดือนธันวาคมปี 2553 และภาวะเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4 ปี 2553 ขยายตัวได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ และน่าจะอยู่ที่ร้อย 8-8.1 จากการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวร้อยละ 8.2 ในไตรมาส 4
นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวถึงเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยในเดือนธันวาคม และไตรมาส 4 ปี 2553 ว่า บอกได้ถึงทิศทางการใช้จ่ายภายในประเทศ และการส่งออกที่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง แม้จะได้รับผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงิน และสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา
สำหรับในปี 2554 สศค.คาดว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวประมาณร้อยละ 4-5 จากภาคการบริโภคของเอกชน เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่า ราคาสินค้าเกษตรในปีนี้จะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาสินค้าเกษตรในปีที่ผ่านมา ปรับขึ้นร้อยละ 16.6 และสถาบันการเงินของไทยที่เข้มแข็ง เพราะมีประสบการณ์ในปี 2540 จะทำให้เศรษฐกิจไทยเป็นไปตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ได้ แม้ว่ายังคงมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า ที่ยังคงมีปัญหาเรื่องเงินเฟ้อ การเคลื่อนย้ายเงินทุน และราคาน้ำมันที่ยังผันผวน ซึ่งอาจจะส่งผลต่อภาวะเงินเฟ้อในประเทศ ส่วนปัจจัยทางการเมืองมองว่า อาจจะเป็นปัจจัยบวก เพราะว่าจะมีการเลือกตั้งในปีนี้ ส่วนการชุมนุมขณะนี้ยังไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจแต่อย่างใด
นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวถึงเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยในเดือนธันวาคม และไตรมาส 4 ปี 2553 ว่า บอกได้ถึงทิศทางการใช้จ่ายภายในประเทศ และการส่งออกที่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง แม้จะได้รับผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงิน และสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา
สำหรับในปี 2554 สศค.คาดว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวประมาณร้อยละ 4-5 จากภาคการบริโภคของเอกชน เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่า ราคาสินค้าเกษตรในปีนี้จะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาสินค้าเกษตรในปีที่ผ่านมา ปรับขึ้นร้อยละ 16.6 และสถาบันการเงินของไทยที่เข้มแข็ง เพราะมีประสบการณ์ในปี 2540 จะทำให้เศรษฐกิจไทยเป็นไปตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ได้ แม้ว่ายังคงมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า ที่ยังคงมีปัญหาเรื่องเงินเฟ้อ การเคลื่อนย้ายเงินทุน และราคาน้ำมันที่ยังผันผวน ซึ่งอาจจะส่งผลต่อภาวะเงินเฟ้อในประเทศ ส่วนปัจจัยทางการเมืองมองว่า อาจจะเป็นปัจจัยบวก เพราะว่าจะมีการเลือกตั้งในปีนี้ ส่วนการชุมนุมขณะนี้ยังไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจแต่อย่างใด
