xs
xsm
sm
md
lg

ธปท.ห่วงจิตวิทยากระตุ้นเงินเฟ้อพุ่ง ประเมิน ศก.ไตรมาส 4 ดีกว่าที่คาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ธปท.ประเมินเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ และการส่งออกที่ยังแรงไม่มีตก แต่ยอมรับปีนี้ปัจจัยเสี่ยงตัวหลักมาจากอัตราเงินเฟ้อ ระบุ ธปท.จะควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ โดยเฉพาะเงินเฟ้อเร่งตัวสูงจากจิตวิทยาและการคาดการณ์เงินเฟ้อของประชาชน

นายทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการ สำนักเศรษฐกิจมหภาค ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การขยายตัวเศรษฐกิจช่วงไตรมาส 4 ที่ผ่านมา ดีกว่าที่ ธปท.คาดการณ์ไว้เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 โดยเฉพาะเศรษฐกิจเดือน พ.ย.ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมไม่มาก ขณะที่ภาคการส่งออกไทยยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น ฉะนั้น ปัจจัยเหล่านี้สูงกว่าที่ ธปท.ประเมินไว้จะเป็นแรงส่งที่ดีให้เศรษฐกิจไทยปี 54 ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง

“ปัจจัยเสี่ยงในปี 54 เกิดจากราคาน้ำมันเป็นตัวหลัก และมีแรงกดดันเงินเฟ้อมากขึ้น โดยแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นตัวสำคัญจากราคาน้ำมัน สินค้าโภคภัณฑ์ และราคาสินค้าเกษตร ซึ่งธนาคารกลางหลายแห่งต่างมีความเป็นห่วงว่าจะส่งผลโดยตรงมายังระบบเศรษฐกิจ หรือในทางอ้อมที่ส่งผ่านมายังต้นทุนการผลิต และเกิดเป็นอัตราเงินเฟ้อในที่สุด ขณะที่ตัวอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจมีความเป็นห่วงน้อยลง”

ส่วนกรณีที่กระทรวงพาณิชย์ควบคุมราคาสินค้าเพิ่มเติม ซึ่งมีความเป็นห่วงว่าอาจจะบิดเบือนกลไกตลาดได้นั้น นายทรงธรรม กล่าวว่า โดยหลักการเป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ที่ต้องดูแลความเป็นธรรมในการปรับราคาสินค้าแต่ละประเภทสอดคล้องกับต้นทุน ขณะที่ ธปท.จะดูแลอัตราเงินเฟ้อโดยรวม โดยเฉพาะความพยายามลดแรงกดดันอัตราเงินเฟ้อที่จะเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ของประชาชนที่สูงกว่าความเป็นจริง

“เราเห็นสัญญาณอัตราเงินเฟ้อมากขึ้นในปีนี้ แต่สิ่งที่ ธปท.กลัวมากที่สุด คือ ทุกคนต่างคิดเหมือนกันจนเกิดเป็นการคาดการณ์เงินเฟ้อสูงขึ้น และเพิ่มราคาสินค้าไปเรื่อยๆ จนเป็นวงจร จึงจำเป็นที่เราต้องทำให้คนคิดว่า ธปท.จะคุมเงินเฟ้ออยู่ เพราะไม่เช่นนั้นอาจส่งผลให้คนเริ่มขาดความเชื่อมั่นได้ และมองว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ย เพื่อดูแลอัตราเงินเฟ้อสูงมากนักจะไม่เป็นการเพิ่มต้นทุนต่อระบบเศรษฐกิจ เพราะต้นทุนดอกเบี้ยคิดเป็น 3-4% ของต้นทุนรวม ถือว่าน้อยมาก” นายทรงธรรม กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น