การทดสอบปืนอัดลมของเล่นที่ไม่ได้มาตรฐาน วัดแรงของกระสุนปืนลมได้เท่ากับ 0.46 จูน ซึ่งเกินค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ที่ 0.08 จูน และเป็นอันตรายต่อผู้ที่ถูกยิง อาจจะทำให้บาดเจ็บหรือพิการได้ ขณะที่ปืนลมที่ติดแสงเลเซอร์ มีความเข้มของแสงสว่างเกินกว่าค่ามาตรฐาน ถึง 4 เท่า หากเล็งใส่ดวงตานานเกิน 25 วินาที อาจเป็นอันตรายต่อจอประสาทตา ทำให้จอประสาทตาเสื่อมหรือไหม้ได้
นายนิโรธ เจริญประกอบ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ยอมรับว่า ที่ผ่านมา การควบคุมซื้อขายปืนของเล่น ทำได้เพียงแต่ปืนของเล่นที่ไม่มีมาตรฐาน มอก.เท่านั้น แต่หลังจากนี้ สคบ.จะประกาศควบคุมให้ปืนของเล่นเป็นสิ่งเทียมอาวุธปืนตามกฎหมายอาวุธปืนที่มีการควบคุมการผลิต นำเข้า และจำหน่าย รวมถึงกำหนดให้เป็นสินค้าควบคุมฉลาก โดยจะประกาศในราชกิจจานุเบกษา ภายใน 30 วัน
เลขาธิการ สคบ. กล่าวอีกว่า ภาครัฐเตรียมบรรจุประเภทปืนอัดลมให้อยู่ในกลุ่มสิ่งเทียมอาวุธ เพื่อให้ผู้ขายต้องมีใบอนุญาตซื้อขายเหมือนอาวุธปืนทั่วไป และเพิ่มบทลงโทษผู้ฝ่าฝืนให้รุนแรงมากขึ้น คือ ผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้ขาย มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสนบาท และผู้ขายที่ไม่แสดงฉลากสินค้าควบคุม จะมีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายนิโรธ เจริญประกอบ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ยอมรับว่า ที่ผ่านมา การควบคุมซื้อขายปืนของเล่น ทำได้เพียงแต่ปืนของเล่นที่ไม่มีมาตรฐาน มอก.เท่านั้น แต่หลังจากนี้ สคบ.จะประกาศควบคุมให้ปืนของเล่นเป็นสิ่งเทียมอาวุธปืนตามกฎหมายอาวุธปืนที่มีการควบคุมการผลิต นำเข้า และจำหน่าย รวมถึงกำหนดให้เป็นสินค้าควบคุมฉลาก โดยจะประกาศในราชกิจจานุเบกษา ภายใน 30 วัน
เลขาธิการ สคบ. กล่าวอีกว่า ภาครัฐเตรียมบรรจุประเภทปืนอัดลมให้อยู่ในกลุ่มสิ่งเทียมอาวุธ เพื่อให้ผู้ขายต้องมีใบอนุญาตซื้อขายเหมือนอาวุธปืนทั่วไป และเพิ่มบทลงโทษผู้ฝ่าฝืนให้รุนแรงมากขึ้น คือ ผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้ขาย มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสนบาท และผู้ขายที่ไม่แสดงฉลากสินค้าควบคุม จะมีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ