นายธนกฤต เจตกิตติโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปาร์คกิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวถึงกรณีปัญหาสัมปทานพื้นที่ลานจอดรถอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่าบริษัท ปาร์คกิ้ง เป็นผู้รับสัมปทานบริหารพื้นที่ดังกล่าว แต่เมื่อเกิดปัญหาการจัดเก็บค่าจอดรถคณะกรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. จึงได้มีมติเลิกสัญญา ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย
นายธนกฤต กล่าวอีกว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา ศาลแพ่งได้มีคำสั่งคุ้มครองให้บริษัท ปาร์คกิ้ง กลับเข้าไปบริหารธุรกิจบริหารลานจอดตามสัญญาเช่นเดิม เนื่องจากบริษัท ปาร์คกิ้ง ได้นำเสนอหลักฐานชี้แจงต่อศาล ทำให้เกิดความชัดเจนว่า ปัญหาชายชุดดำที่เคยเข้าไปปิดล้อมลานจอดนั้น เป็นการกระทำของ ทอท.เอง และใช้เป็นข้ออ้างในการเลิกสัญญากับบริษัท หลังจากศาลมีคำสั่งคุ้มครองวันนี้ ผู้บริหารบริษัท ปาร์คกิ้ง ได้เข้าไปขอเจรจากับผู้บริหารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อให้ปฏิบัติตามคำสั่งของศาล โดยนำเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเป็นพยาน โดยตลอดทั้ง ผู้บริหาร ทอท. ไม่มาเจรจา และเมื่อบริษัทปาร์คกิ้งจะนำเจ้าหน้าที่กลับเข้าไปปฏิบัติหน้าที่เช่นเดิม ตามคำสั่งศาล กลับถูกขัดขวางจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงถือว่า ผู้บริหาร ทอท.ละเมิดคำสั่งศาล และจะมีการร้องต่อศาลให้ดำเนินคดีกับผู้บริหาร ทอท.ต่อไป
นายธนกฤต กล่าวอีกว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา ศาลแพ่งได้มีคำสั่งคุ้มครองให้บริษัท ปาร์คกิ้ง กลับเข้าไปบริหารธุรกิจบริหารลานจอดตามสัญญาเช่นเดิม เนื่องจากบริษัท ปาร์คกิ้ง ได้นำเสนอหลักฐานชี้แจงต่อศาล ทำให้เกิดความชัดเจนว่า ปัญหาชายชุดดำที่เคยเข้าไปปิดล้อมลานจอดนั้น เป็นการกระทำของ ทอท.เอง และใช้เป็นข้ออ้างในการเลิกสัญญากับบริษัท หลังจากศาลมีคำสั่งคุ้มครองวันนี้ ผู้บริหารบริษัท ปาร์คกิ้ง ได้เข้าไปขอเจรจากับผู้บริหารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อให้ปฏิบัติตามคำสั่งของศาล โดยนำเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเป็นพยาน โดยตลอดทั้ง ผู้บริหาร ทอท. ไม่มาเจรจา และเมื่อบริษัทปาร์คกิ้งจะนำเจ้าหน้าที่กลับเข้าไปปฏิบัติหน้าที่เช่นเดิม ตามคำสั่งศาล กลับถูกขัดขวางจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงถือว่า ผู้บริหาร ทอท.ละเมิดคำสั่งศาล และจะมีการร้องต่อศาลให้ดำเนินคดีกับผู้บริหาร ทอท.ต่อไป