นายสุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า สถานการณ์ปัญหามลพิษทางอากาศจากหมอกควันและฝุ่นละออง เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีในพื้นที่ภาคเหนือ โดยช่วงต้นปีที่ผ่านมา พบระดับฝุ่นละอองเริ่มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งต้นเดือนมีนาคม ในพื้นที่ภาคเหนือหลายจังหวัดเริ่มมีปริมาณฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน
ทั้งนี้ ระดับฝุ่นละอองที่เกินมาตรฐาน จะส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจของประชาชน โดยกลุ่มที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษคือ คนที่เป็นโรคหอบหืด ภูมิแพ้ รวมทั้งเด็กและผู้สูงอายุ
นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบให้ทัศนวิสัยแย่ลง และหากมีฝุ่นละอองจำนวนมาก ก็อาจเป็นอุปสรรคต่อการขึ้นลงของเครื่องบินด้วย และเนื่องจากปีนี้ มีสภาพอากาศที่แห้งแล้ง จึงเป็นปัจจัยให้เกิดไฟลุกลามได้ง่ายและดับยาก โดยส่วนใหญ่เกิดจากฝีมือมนุษย์มากกว่าภัยธรรมชาติ
อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวอีกว่า ได้มีการหารือร่วมกันระหว่าง 5 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งที่ประชุมได้กำชับแต่ละประเทศไปควบคุมเรื่องการเผาให้น้อยลง นอกจากนี้ ทุกประเทศจะร่วมมือกัน ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเต็มที่
ทั้งนี้ ระดับฝุ่นละอองที่เกินมาตรฐาน จะส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจของประชาชน โดยกลุ่มที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษคือ คนที่เป็นโรคหอบหืด ภูมิแพ้ รวมทั้งเด็กและผู้สูงอายุ
นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบให้ทัศนวิสัยแย่ลง และหากมีฝุ่นละอองจำนวนมาก ก็อาจเป็นอุปสรรคต่อการขึ้นลงของเครื่องบินด้วย และเนื่องจากปีนี้ มีสภาพอากาศที่แห้งแล้ง จึงเป็นปัจจัยให้เกิดไฟลุกลามได้ง่ายและดับยาก โดยส่วนใหญ่เกิดจากฝีมือมนุษย์มากกว่าภัยธรรมชาติ
อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวอีกว่า ได้มีการหารือร่วมกันระหว่าง 5 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งที่ประชุมได้กำชับแต่ละประเทศไปควบคุมเรื่องการเผาให้น้อยลง นอกจากนี้ ทุกประเทศจะร่วมมือกัน ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเต็มที่