ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เชียงใหม่ประชุมเชิงปฏิบัติการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแนวทางป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก เน้นย้ำทุกภาคส่วนเข้มงวดการเผาในที่โล่งสาเหตุสำคัญของปัญหา ขณะที่ผู้อำนวยการส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า ชี้แนวโน้มไฟป่ารุนแรงกว่าปีก่อนเหตุปริมาณน้ำฝนน้อยส่งผลความชื้นต่ำ
วันนี้(11 ก.พ.53) ที่โรงแรมอิมพีเรียลแม่ปิง จังหวัดเชียงใหม่ นายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “วาระคนเชียงใหม่:การขับเคลื่อนเพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควัน” ซึ่งสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดขึ้น เพื่อนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหามลพิษอากาศในจังหวัดเชียงใหม่และทางเลือก ในการลดพฤติกรรมเผาในที่โล่ง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหามลพิษทางอากาศ โดยมีนายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานราชการ รวมทั้งผู้นำชุมชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เข้าร่วมประมาณ 200 คน
ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 และค่าดัชนีคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ ยังคงอยู่ในระดับมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ขอเน้นย้ำกำชับไปยังทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้ร่วมมือกันในการเฝ้าระวังการเผาในที่โล่งทุกชนิดที่เป็นสาเหตุสำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น
ในระดับอำเภอนั้น ได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันแก้ไขปัญหาแล้ว ให้นายอำเภอร่วมมือกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำงานกันอย่างใกล้ชิดในการควบคุมและดูแลการเผาในพื้นที่อย่างเข้มงวด
ขณะที่นายสุรพล ลีลาวโรภาส ผู้อำนวยการส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 กล่าวถึงสถานการณ์การเกิดไฟป่าว่า ปีนี้มีแนวโน้มรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา เห็นได้จากพื้นที่ที่เกิดไฟป่าตั้งแต่เดือน ต.ค.52 เป็นต้นมาถึงเวลานี้มีกว่า 2,000 ไร่แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีประมาณ 1,000 ไร่ โดยสาเหตุเนื่องมาจากปริมาณน้ำฝนที่น้อยกว่าทำให้ความชื้นต่ำส่งผลให้มีเชื้อเพลิงสะสมในป่ามากขึ้น
สำหรับแนวทางการป้องกันแก้ไขปัญหาในปีนี้ ได้มีการใช้งบประมาณตามนโยบายไทยเข้มแข็งในการจัดจ้างอาสาสมัครเฝ้าระวังป้องกันไฟป่าหมู่บ้านละ 8 คน จำนวนทั้งสิ้น 255 หมู่บ้าน ที่เป็นพื้นที่เสี่ยงเกิดไฟป่า ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และแม่ฮ่องสอน เพื่อทำหน้าที่ในการเฝ้าระวังและดับไฟป่า เสริมการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่มีกำลังจำกัด เชื่อว่าน่าจะช่วยแบ่งเบาภาระและบรรเทาปัญหาได้ในระดับหนึ่ง
วันนี้(11 ก.พ.53) ที่โรงแรมอิมพีเรียลแม่ปิง จังหวัดเชียงใหม่ นายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “วาระคนเชียงใหม่:การขับเคลื่อนเพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควัน” ซึ่งสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดขึ้น เพื่อนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหามลพิษอากาศในจังหวัดเชียงใหม่และทางเลือก ในการลดพฤติกรรมเผาในที่โล่ง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหามลพิษทางอากาศ โดยมีนายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานราชการ รวมทั้งผู้นำชุมชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เข้าร่วมประมาณ 200 คน
ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 และค่าดัชนีคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ ยังคงอยู่ในระดับมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ขอเน้นย้ำกำชับไปยังทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้ร่วมมือกันในการเฝ้าระวังการเผาในที่โล่งทุกชนิดที่เป็นสาเหตุสำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น
ในระดับอำเภอนั้น ได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันแก้ไขปัญหาแล้ว ให้นายอำเภอร่วมมือกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำงานกันอย่างใกล้ชิดในการควบคุมและดูแลการเผาในพื้นที่อย่างเข้มงวด
ขณะที่นายสุรพล ลีลาวโรภาส ผู้อำนวยการส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 กล่าวถึงสถานการณ์การเกิดไฟป่าว่า ปีนี้มีแนวโน้มรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา เห็นได้จากพื้นที่ที่เกิดไฟป่าตั้งแต่เดือน ต.ค.52 เป็นต้นมาถึงเวลานี้มีกว่า 2,000 ไร่แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีประมาณ 1,000 ไร่ โดยสาเหตุเนื่องมาจากปริมาณน้ำฝนที่น้อยกว่าทำให้ความชื้นต่ำส่งผลให้มีเชื้อเพลิงสะสมในป่ามากขึ้น
สำหรับแนวทางการป้องกันแก้ไขปัญหาในปีนี้ ได้มีการใช้งบประมาณตามนโยบายไทยเข้มแข็งในการจัดจ้างอาสาสมัครเฝ้าระวังป้องกันไฟป่าหมู่บ้านละ 8 คน จำนวนทั้งสิ้น 255 หมู่บ้าน ที่เป็นพื้นที่เสี่ยงเกิดไฟป่า ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และแม่ฮ่องสอน เพื่อทำหน้าที่ในการเฝ้าระวังและดับไฟป่า เสริมการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่มีกำลังจำกัด เชื่อว่าน่าจะช่วยแบ่งเบาภาระและบรรเทาปัญหาได้ในระดับหนึ่ง