วันนี้ (26 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.00 น.กลุ่มชาวนาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี สุพรรรณบุรี นครปฐม และนนทบุรี ประมาณ 300 คน รวมตัวปิดถนนประท้วงบนถนนสาย 340 ตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี บริเวณแยก อ.ลาดบัวหลวง ทำให้การจราจรติดขัด โดยตำรวจได้จัดเจ้าหน้าที่ระบายรถเข้าเส้นทางเลี่ยงหลังตลาดลาดบัวหลวง เข้ากรุงเทพมหานคร และสุพรรณบุรีแทน
ขณะที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ เดินทางผ่านเส้นทางดังกล่าว และจอดรถลงมาร่วมเวทีปราศรัยกับกลุ่มผู้ชุมนุมชาวนา โดยนายชูวิทย์ ระบุว่า การเรียกร้องในครั้งนี้จะไม่เกิดผล เพราะหลายคนให้ความสนใจกับคดียึดทรัพย์อดีตนายกรัฐมนตรี จึงไม่เกิดประโยชน์ เพราะผู้เกี่ยวข้องไม่ให้ความสำคัญ ฉะนั้น ชาวนาต้องรวมตัวกันในหลายจังหวัด พร้อมเครื่องมือการเกษตรไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อทวงถามการให้ความช่วยเหลือจากรัฐบาล ซึ่งจากการเรียกร้องไม่มีตัวแทนของรัฐบาล หรือกระทรวงพานิชย์มารับข้อเรียกร้อง ทำให้กลุ่มชาวนาไม่พอใจ และรวมตัวเคลื่อนขบวนไปปิดถนนบริเวณสี่แยกนพวงศ์ จ.นนทบุรี ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก
สำหรับข้อเรียกร้องของชาวนา ประกอบด้วย ให้กำหนดราคาประกันอยู่ที่ตันละ 12,000 บาท ให้ขยายโควตาโครงการประกันจาก 25 ตัน เป็น 50 ตัน ให้เปลี่ยนจากโครงการประกันเป็นการรับจำนำแบบเก่า และกรมการค้าภายใน ต้องสั่งให้โรงสีข้าวทุกแห่ง เปิดรับซื้อข้าวของเกษตรกรในทันที เนื่องจากปัจจุบันรัฐบาลกำหนดให้มีการเปิดจุดรับซื้อข้าวที่ จ.พระนครศรีอยุธยา 4 จุด แต่ความเป็นจริงทำได้เพียงจุดเดียว เพราะโรงสีไม่มีเงินที่วางค้ำประกันกับรัฐบาล เพื่อเข้าร่วมโครงการเปิดจุดรับซื้อ
ขณะที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ เดินทางผ่านเส้นทางดังกล่าว และจอดรถลงมาร่วมเวทีปราศรัยกับกลุ่มผู้ชุมนุมชาวนา โดยนายชูวิทย์ ระบุว่า การเรียกร้องในครั้งนี้จะไม่เกิดผล เพราะหลายคนให้ความสนใจกับคดียึดทรัพย์อดีตนายกรัฐมนตรี จึงไม่เกิดประโยชน์ เพราะผู้เกี่ยวข้องไม่ให้ความสำคัญ ฉะนั้น ชาวนาต้องรวมตัวกันในหลายจังหวัด พร้อมเครื่องมือการเกษตรไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อทวงถามการให้ความช่วยเหลือจากรัฐบาล ซึ่งจากการเรียกร้องไม่มีตัวแทนของรัฐบาล หรือกระทรวงพานิชย์มารับข้อเรียกร้อง ทำให้กลุ่มชาวนาไม่พอใจ และรวมตัวเคลื่อนขบวนไปปิดถนนบริเวณสี่แยกนพวงศ์ จ.นนทบุรี ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก
สำหรับข้อเรียกร้องของชาวนา ประกอบด้วย ให้กำหนดราคาประกันอยู่ที่ตันละ 12,000 บาท ให้ขยายโควตาโครงการประกันจาก 25 ตัน เป็น 50 ตัน ให้เปลี่ยนจากโครงการประกันเป็นการรับจำนำแบบเก่า และกรมการค้าภายใน ต้องสั่งให้โรงสีข้าวทุกแห่ง เปิดรับซื้อข้าวของเกษตรกรในทันที เนื่องจากปัจจุบันรัฐบาลกำหนดให้มีการเปิดจุดรับซื้อข้าวที่ จ.พระนครศรีอยุธยา 4 จุด แต่ความเป็นจริงทำได้เพียงจุดเดียว เพราะโรงสีไม่มีเงินที่วางค้ำประกันกับรัฐบาล เพื่อเข้าร่วมโครงการเปิดจุดรับซื้อ