นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า สหภาพยุโรป หรือ EU จะส่งทีมคณะผู้ตรวจประเมิน เพื่อติดตามตรวจสอบการผลิตพืชของไทยให้เป็นไปตามข้อกำหนดของอียู โดยพืชที่ไทยส่งไปยังอียูต้องปราศจากสารพิษตกค้างและไม่มีการปนเปื้อนของศัตรูพืชรวมทั้งติดตามการดำเนินงานของกรมวิชาการเกษตร เรื่องเทคนิคและวิธีการตรวจรับรองไส้เดือนฝอยในพรรณไม้น้ำ โดยอียูจะเข้ามาตรวจสอบทั้งฟาร์มผู้ปลูกไม้น้ำ ผู้ประกอบการ และห้องปฏิบัติการของกรมวิชาการเกษตร เพื่อติดตามความก้าวหน้าของไทยในการควบคุมไม่ให้ไส้เดือนฝอยติดไปกับพรรณไม้น้ำ โดยอียูให้ความสำคัญและเข้มงวดในเรื่องการปนเปื้อนและการป้องกันกำจัดไส้เดือนฝอยในฟาร์มผลิตพรรณไม้น้ำ ทำให้กรมวิชาการเกษตรต้องเร่งแก้ไขปัญหา ตั้งแต่กระบวนการปลูกเพาะเลี้ยงพืชในแหล่งผลิตให้ปลอดจากไส้เดือนฝอย และยังพัฒนาเทคนิคการตรวจรับรองให้รวดเร็วและได้มาตรฐาน เพื่อให้พรรณไม้น้ำของไทยมีคุณภาพตรงตามที่ประเทศคู่ค้าระบุไว้
ด้าน ดร.นุชนารถ ตั้งจิตสมคิด นักวิชาการโรคพืชชำนาญการพิเศษ สำนักวิจัย และพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมวิชาการเกษตรใช้วิธีการตรวจแยกไส้เดือนฝอยจากรากพืชด้วยเครื่องพ่นหมอก โดยใช้หัวพ่นน้ำเป็นละอองฝอยตกกระทบลงบนรากพืชเพื่อแยกไส้เดือนฝอยให้เคลื่อนที่ออกมาจากรากพืช ซึ่งต้องใช้เวลานานถึง 2 วัน จึงจะทราบผลว่ามีไส้เดือนฝอยปนเปื้อนในรากพืชหรือไม่ ทำให้ไม่สามารถรองรับการตรวจพืชในปริมาณมากๆ ต่อวันได้ ดังนั้น กรมวิชาการเกษตรจึงได้พัฒนาคิดค้นเทคนิคใหม่ในการตรวจสอบรับรองไส้เดือนฝอยในรากพืชทดแทนเครื่องพ่นหมอก โดยการใช้คลื่นเสียงหรืออุลตร้าโซนิคเป็นตัวแยกไส้เดือนฝอยออกจากรากพืช ซึ่งสามารถตรวจสอบไส้เดือนฝอยปนเปื้อนว่าปนเปื้อนไปกับรากไม้น้ำหรือไม่ สำหรับเทคนิคดังกล่าวจะเป็นอีกหนึ่งผลงานวิจัยของกรมวิชาการเกษตร สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการตรวจรับรองการส่งออกพรรณไม้น้ำ รวมทั้งไม้ดอกๆไม่ประดับอื่นๆ อีกด้วย
ด้าน ดร.นุชนารถ ตั้งจิตสมคิด นักวิชาการโรคพืชชำนาญการพิเศษ สำนักวิจัย และพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมวิชาการเกษตรใช้วิธีการตรวจแยกไส้เดือนฝอยจากรากพืชด้วยเครื่องพ่นหมอก โดยใช้หัวพ่นน้ำเป็นละอองฝอยตกกระทบลงบนรากพืชเพื่อแยกไส้เดือนฝอยให้เคลื่อนที่ออกมาจากรากพืช ซึ่งต้องใช้เวลานานถึง 2 วัน จึงจะทราบผลว่ามีไส้เดือนฝอยปนเปื้อนในรากพืชหรือไม่ ทำให้ไม่สามารถรองรับการตรวจพืชในปริมาณมากๆ ต่อวันได้ ดังนั้น กรมวิชาการเกษตรจึงได้พัฒนาคิดค้นเทคนิคใหม่ในการตรวจสอบรับรองไส้เดือนฝอยในรากพืชทดแทนเครื่องพ่นหมอก โดยการใช้คลื่นเสียงหรืออุลตร้าโซนิคเป็นตัวแยกไส้เดือนฝอยออกจากรากพืช ซึ่งสามารถตรวจสอบไส้เดือนฝอยปนเปื้อนว่าปนเปื้อนไปกับรากไม้น้ำหรือไม่ สำหรับเทคนิคดังกล่าวจะเป็นอีกหนึ่งผลงานวิจัยของกรมวิชาการเกษตร สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการตรวจรับรองการส่งออกพรรณไม้น้ำ รวมทั้งไม้ดอกๆไม่ประดับอื่นๆ อีกด้วย
