นายแพทย์พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการติดตามความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบ หลังจากปิดรับลงทะเบียนไปเมื่อสิ้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ว่า หลังจากกรมบัญชีกลางได้รวบรวมข้อมูลลูกหนี้นอกระบบแล้วพบว่า มีลูกหนี้ทั้งหมด 1,195,481 ราย มูลหนี้รวม 122,859 ล้านบาท เฉลี่ยเป็นหนี้รายละ 103,000 บาท ทั้งนี้กรมบัญชีกลางได้คัดแยกประเภทลูกหนี้ที่มาลงทะเบียนในรอบแรกเพื่อส่งรายชื่อไปยังธนาคารที่เข้าร่วมโครงการแล้ว โดยเป็นลูกหนี้ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. รับไปดูแลมีจำนวน 504,779 ราย ธนาคารออมสิน จำนวน 331,638 ราย ธนาคารกรุงไทย 48,992 ราย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) 28,115 ราย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย 28,341 ราย และธนาคารอาคารสงเคราะห์ 14,471 ราย
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า ลูกหนี้สามารถนำบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่มีเลขประจำตัว 13 หลัก และมีรูปถ่ายไปตรวจสอบข้อมูลว่าต้องไปติดต่อที่ธนาคารใด สาขาหรือจังหวัดใด ได้ที่สำนักงานคลังจังหวัดทั่วประเทศ และที่กรมบัญชีกลางด้วยตนเอง ซึ่งธนาคารต่างๆ ได้ส่งข้อมูลให้กับสาขาของธนาคารและให้ธนาคารสาขาประสานงานกับทางอำเภอ โดยทางอำเภอจะออกหนังสือเชิญลูกหนี้และเจ้าหนี้มาเจรจาหนี้ ในส่วนของหลักเกณฑ์การค้ำประกันของธนาคารยังคงใช้เกณฑ์เดิม สำหรับการช่วยเหลือเบื้องต้นเมื่อตรวจสอบมูลหนี้แล้วต่ำกว่า 50,000 บาท ทางธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. ได้มีการจ่ายเงินให้แก่เจ้าหนี้ไปบ้างแล้ว โดยได้กำชับให้มีการติดตามผลอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า ลูกหนี้สามารถนำบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่มีเลขประจำตัว 13 หลัก และมีรูปถ่ายไปตรวจสอบข้อมูลว่าต้องไปติดต่อที่ธนาคารใด สาขาหรือจังหวัดใด ได้ที่สำนักงานคลังจังหวัดทั่วประเทศ และที่กรมบัญชีกลางด้วยตนเอง ซึ่งธนาคารต่างๆ ได้ส่งข้อมูลให้กับสาขาของธนาคารและให้ธนาคารสาขาประสานงานกับทางอำเภอ โดยทางอำเภอจะออกหนังสือเชิญลูกหนี้และเจ้าหนี้มาเจรจาหนี้ ในส่วนของหลักเกณฑ์การค้ำประกันของธนาคารยังคงใช้เกณฑ์เดิม สำหรับการช่วยเหลือเบื้องต้นเมื่อตรวจสอบมูลหนี้แล้วต่ำกว่า 50,000 บาท ทางธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. ได้มีการจ่ายเงินให้แก่เจ้าหนี้ไปบ้างแล้ว โดยได้กำชับให้มีการติดตามผลอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง