การประชุมร่วมกันของรัฐสภาวันนี้ มีเรื่องด่วนที่บรรจุอยู่ในระเบียบวาระการพิจารณา คือญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ฉบับที่เสนอโดยประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกว่า 7 หมื่นรายชื่อเป็นผู้เสนอ และร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 ของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลจำนวน 102 รายชื่อเป็นผู้เสนอ และยังมีระเบียบวาระการพิจารณาเรื่องที่เสนอใหม่ คือกรอบการเจรจาระหว่างประเทศจำนวน 4 ฉบับ และอีก 2 ฉบับที่รัฐบาลเสนอเพิ่มเติมวานนี้ รวมเป็น 6 ฉบับ โดยหลัง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอญัตติขอเลื่อนระเบียบวาระการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 2 เรื่องออกไปก่อน และเสนอให้นำกรอบการเจรจาต่างประเทศจำนวน 6 ฉบับขึ้นมาพิจารณาเป็นวาระแรก ทำให้ ส.ส.ฝ่ายค้านและส.ว.บางส่วนทักท้วงไม่เห็นด้วย และเห็นว่าควรพิจารณาตามที่บรรจุไว้ในระเบียบวาระ ซึ่งหลังถกเถียงกันกว่า 3 ชั่วโมงที่ประชุมจึงลงมติดังกล่าว ซึ่งมีมติด้วยคะแนนเห็นด้วย 278 เสียง ไม่เห็นด้วย 212 เสียง ให้เลื่อนขึ้นมาพิจารณา 4 กรอบในวันนี้ ประกอบด้วย บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งเติร์กเมนิสถาน บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐตุรกี และเรื่องการเข้าร่วมเป็นภาคีในระบบการยอมรับร่วมในข้อมูลการประเมินสารเคมี ขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาการทางเศรษฐกิจ
ขณะที่อีก 2 ฉบับ คือร่างข้อตกลงมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ไปสู่การเป็นพหุภาคี และกรอบการเจรจาข้อตกลงจัดตั้ง Credit Guarantee and Investment Facility (CGIF) และกรอบวงเงินทุนจัดตั้งในส่วนที่ประเทศไทยจะต้องชำระไปพิจารณาต่อในวันพรุ่งนี้
ขณะที่อีก 2 ฉบับ คือร่างข้อตกลงมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ไปสู่การเป็นพหุภาคี และกรอบการเจรจาข้อตกลงจัดตั้ง Credit Guarantee and Investment Facility (CGIF) และกรอบวงเงินทุนจัดตั้งในส่วนที่ประเทศไทยจะต้องชำระไปพิจารณาต่อในวันพรุ่งนี้