นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยื่นหนังสือต่อนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เพื่อขอให้พิจารณาส่งเรื่องต่อไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้ถอดถอนนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากเห็นว่ามีพฤติกรรมเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 270 ในการจงใจใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ กรณีการบรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เสนอโดยคณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือ คปพร. เข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมของรัฐสภา
โดยพันธมิตรฯ เห็นว่ากระบวนการเสนอแก้ไขของ คปพร.ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เพราะตามมาตราดังกล่าวระบุว่า ประชาชนมีสิทธิ์เลือกตั้งไม่น้อยกว่า 50,000 ชื่อ เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญได้เป็นรายมาตรา ไม่ใช่แก้ทั้งฉบับ นอกจากนี้ ปัจจุบันกฎหมายการเข้าชื่อเสนอกฎหมายยังไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภา จึงไม่มีกฎหมายรองรับการดำเนินการของนายแพทย์เหวง โตจิราการ ดังนั้นนายชัย จึงไม่มีสิทธิ์บรรจุระเบียบเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่วาระของรัฐสภา
อย่างไรก็ตาม สำหรับการประชุมร่วมรัฐสภา หลังถกเถียงกันหลายชั่วโมง ล่าสุดที่ประชุมลงมติด้วยเสียงส่วนใหญ่เลื่อนกรอบการเจรจาบันทึกข้อตกลงความเข้าใจกับต่างประเทศขึ้นมาพิจารณาก่อนญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ก็เป็นการพิจารณากรอบข้อตกลง 4 ฉบับเท่านั้น อีก 2 ฉบับที่รัฐบาลตั้งใจจะพิจารณาด้วย และเสนอเข้ามาโดยกระทรวงการคลัง ไม่สามารถพิจารณาได้ เพราะถูกฝ่ายค้านติงว่าประธานได้บรรจุเข้าระเบียบวาระไม่ครบ 24 ชั่วโมง ตามข้อบังคับของการประชุมร่วมรัฐสภาที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ หลังจากมีความชัดเจนว่าไม่มีการพิจารณาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว ทำให้บรรยากาศภายในห้องประชุมที่ตึงเครียดมาตั้งแต่ช่วงเช้า ได้ผ่อนคลายลงแล้ว
โดยพันธมิตรฯ เห็นว่ากระบวนการเสนอแก้ไขของ คปพร.ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เพราะตามมาตราดังกล่าวระบุว่า ประชาชนมีสิทธิ์เลือกตั้งไม่น้อยกว่า 50,000 ชื่อ เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญได้เป็นรายมาตรา ไม่ใช่แก้ทั้งฉบับ นอกจากนี้ ปัจจุบันกฎหมายการเข้าชื่อเสนอกฎหมายยังไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภา จึงไม่มีกฎหมายรองรับการดำเนินการของนายแพทย์เหวง โตจิราการ ดังนั้นนายชัย จึงไม่มีสิทธิ์บรรจุระเบียบเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่วาระของรัฐสภา
อย่างไรก็ตาม สำหรับการประชุมร่วมรัฐสภา หลังถกเถียงกันหลายชั่วโมง ล่าสุดที่ประชุมลงมติด้วยเสียงส่วนใหญ่เลื่อนกรอบการเจรจาบันทึกข้อตกลงความเข้าใจกับต่างประเทศขึ้นมาพิจารณาก่อนญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ก็เป็นการพิจารณากรอบข้อตกลง 4 ฉบับเท่านั้น อีก 2 ฉบับที่รัฐบาลตั้งใจจะพิจารณาด้วย และเสนอเข้ามาโดยกระทรวงการคลัง ไม่สามารถพิจารณาได้ เพราะถูกฝ่ายค้านติงว่าประธานได้บรรจุเข้าระเบียบวาระไม่ครบ 24 ชั่วโมง ตามข้อบังคับของการประชุมร่วมรัฐสภาที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ หลังจากมีความชัดเจนว่าไม่มีการพิจารณาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว ทำให้บรรยากาศภายในห้องประชุมที่ตึงเครียดมาตั้งแต่ช่วงเช้า ได้ผ่อนคลายลงแล้ว