วานนี้ (10 ก.พ.) นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ในวันนี้ (11 ก.พ.) ว่า การพิจารณาจะต้องเป็นไปตามระเบียบวาระ โดยร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่เสนอโดย นพ.เหวง โตจิราการ นั้นอยู่ในวาระแรก และร่างของพรรคร่วมรัฐบาล ที่เสนอแก้ไขใน 2 ประเด็น อยู่ในลำดับต่อไป แต่เป็นไปได้ที่จะนำร่างของพรรคร่วมรัฐบาล ขึ้นมาพิจารณาก่อน หรือพิจารณาไปพร้อมกัน ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับที่ประชุมรัฐสภา ว่าจะมีมติอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ว่าในการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของน.พ.เหวง จะมีการกดดันจากกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งอาจจะมาล้อมสภาอีก นายชัย กล่าวว่า ไม่คิด เพราะการปกครองในระบอบประชาธิปไตย จะต้องถือกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นหลัก อย่าไปคิดเรื่องอื่น และแม้กลุ่มคนเสื้อแดงจะมากดดัน ก็ไม่มีผลต่อการพิจารณาอะไร และไม่จำเป็นต้องขอกำลังตำรวจมาดูแล เพราะมีผู้สื่อข่าวทุกช่องเป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยให้นำพาประเทศชาติไปได้
เมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ ที่รัฐสภาได้มีการประชุมวิปรัฐบาล เพื่อหารือถึงวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันนี้ โดยนายวิทยา แก้วภราดัย ประธานวิปรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้มีมติให้บันทึกความเข้าใจระหว่างประเทศ จำนวน 4 ฉบับ และกรอบการเจรจาที่กระทรวงการคลังเสนออีก 2 ฉบับ ซึ่งมีความสำคัญขึ้นมาพิจารณาก่อน
ทั้งนี้ พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคเห็นสอดคล้องกันว่า ไม่เหมาะสมที่จะนำญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นมาพิจารณาในช่วงนี้ จึงขอให้นำญัตติดังกล่าวไปพิจารณาในการประชุมรัฐสภานัดหน้า ซึ่งยังไม่ได้ระบุวันประชุมที่แน่ชัด
เมื่อถามว่ามั่นใจเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลมากน้อยแค่ไหนว่าจะเห็นด้วยกับการเสนอเลื่อนวาระพิจารณาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไป นายวิทยา กล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคเป็นผู้เสนอเองว่า ควรจะพิจารณาบันทึกข้อตกลงระหว่างประเทศตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ก่อน จึงมั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหา
ด้าน นพ. อลงกต มณีกาศ วิปรัฐบาลพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวยืนยันว่าในที่ประชุมพรรคร่วมรัฐบาลเห็นตรงกันว่า ควรจะพิจารณากรอบข้อตกลงระหว่างประเทศก่อน เพราะไม่ต้องการให้เกิดการเผชิญหน้ากันในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงขอให้นำญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไปพิจารณาในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาครั้งหน้า เช่นเดียวกับนายภราดร ปริศนานันทกุล วิปรัฐบาล ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวยอมรับว่า จำเป็นที่จะต้องนำข้อตกลง 6 เรื่อง ขึ้นมาพิจารณาก่อน ซึ่งยังไม่ทราบว่าสมาชิกรัฐสภาจะใช้เวลาในการอภิปรายมากน้อยแค่ไหน ซึ่งคิดว่าคงจะพิจารณาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ทันในการประชุมวันนี้(11ก.พ.) ส่วนจะมีการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในครั้งต่อไปวันใดนั้น คงต้องขึ้นอยู่กับประธานรัฐสภาจะเป็นผู้กำหนด
ด้านนาย ธนิตพล ไชยนันท์ เลขานุการวิปรัฐบาล กล่าวว่า ช่วงเช้าของวันนี้(11ก.พ.) วิปของพรรคร่วมรัฐบาลได้นัดประชุมกันอีกครั้ง เพื่อพิจารณาวาระการประชุมที่ชัดเจน เพื่อให้เป็นไปตามทิศทางเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ว่าในการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของน.พ.เหวง จะมีการกดดันจากกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งอาจจะมาล้อมสภาอีก นายชัย กล่าวว่า ไม่คิด เพราะการปกครองในระบอบประชาธิปไตย จะต้องถือกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นหลัก อย่าไปคิดเรื่องอื่น และแม้กลุ่มคนเสื้อแดงจะมากดดัน ก็ไม่มีผลต่อการพิจารณาอะไร และไม่จำเป็นต้องขอกำลังตำรวจมาดูแล เพราะมีผู้สื่อข่าวทุกช่องเป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยให้นำพาประเทศชาติไปได้
เมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ ที่รัฐสภาได้มีการประชุมวิปรัฐบาล เพื่อหารือถึงวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันนี้ โดยนายวิทยา แก้วภราดัย ประธานวิปรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้มีมติให้บันทึกความเข้าใจระหว่างประเทศ จำนวน 4 ฉบับ และกรอบการเจรจาที่กระทรวงการคลังเสนออีก 2 ฉบับ ซึ่งมีความสำคัญขึ้นมาพิจารณาก่อน
ทั้งนี้ พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคเห็นสอดคล้องกันว่า ไม่เหมาะสมที่จะนำญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นมาพิจารณาในช่วงนี้ จึงขอให้นำญัตติดังกล่าวไปพิจารณาในการประชุมรัฐสภานัดหน้า ซึ่งยังไม่ได้ระบุวันประชุมที่แน่ชัด
เมื่อถามว่ามั่นใจเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลมากน้อยแค่ไหนว่าจะเห็นด้วยกับการเสนอเลื่อนวาระพิจารณาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไป นายวิทยา กล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคเป็นผู้เสนอเองว่า ควรจะพิจารณาบันทึกข้อตกลงระหว่างประเทศตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ก่อน จึงมั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหา
ด้าน นพ. อลงกต มณีกาศ วิปรัฐบาลพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวยืนยันว่าในที่ประชุมพรรคร่วมรัฐบาลเห็นตรงกันว่า ควรจะพิจารณากรอบข้อตกลงระหว่างประเทศก่อน เพราะไม่ต้องการให้เกิดการเผชิญหน้ากันในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงขอให้นำญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไปพิจารณาในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาครั้งหน้า เช่นเดียวกับนายภราดร ปริศนานันทกุล วิปรัฐบาล ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวยอมรับว่า จำเป็นที่จะต้องนำข้อตกลง 6 เรื่อง ขึ้นมาพิจารณาก่อน ซึ่งยังไม่ทราบว่าสมาชิกรัฐสภาจะใช้เวลาในการอภิปรายมากน้อยแค่ไหน ซึ่งคิดว่าคงจะพิจารณาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ทันในการประชุมวันนี้(11ก.พ.) ส่วนจะมีการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในครั้งต่อไปวันใดนั้น คงต้องขึ้นอยู่กับประธานรัฐสภาจะเป็นผู้กำหนด
ด้านนาย ธนิตพล ไชยนันท์ เลขานุการวิปรัฐบาล กล่าวว่า ช่วงเช้าของวันนี้(11ก.พ.) วิปของพรรคร่วมรัฐบาลได้นัดประชุมกันอีกครั้ง เพื่อพิจารณาวาระการประชุมที่ชัดเจน เพื่อให้เป็นไปตามทิศทางเดียวกัน