นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการเพาะปลูกพืชในหน้าแล้งปีนี้ว่า ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีการทำแผนไว้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ในการวางแผนการปลูกพืชให้เหมาะสมกับน้ำต้นทุนในเขื่อน และอ่างเก็บน้ำต่างๆทั่วประเทศ โดยมีการปลูกข้าว 9.5 ล้านไร่ ที่เหลือเป็นพืชไร่ พืชผักอายุสั้นประมาณ 2 ล้านไร่เศษ ซึ่งขณะนี้เกษตรกรได้ปลูกข้าวนาปรังเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นายธีระ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำในพื้นที่เขตชลประทานหลายจังหวัดมีปัญหาเรื่องน้ำในเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำมีน้อยกว่าทุกปี เช่นที่เขื่อนลำพระเพลิง จ.นครราชสีมา ดังนั้นพื้นที่เขตชลประทานใน อ.ปักธงชัยและโชคชัย ต้องหารือร่วมกันในการเพาะปลูกข้าว และพืชหน้าแล้ง ซึ่งขณะนี้จากการรายงานของชลประทานนครราชสีมา พื้นที่การปลูกข้าวนาปรังยังเป็นไปตามเป้าหมาย แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้มีการเพิ่มพื้นที่ปลูก
นายธีระ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำในพื้นที่เขตชลประทานหลายจังหวัดมีปัญหาเรื่องน้ำในเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำมีน้อยกว่าทุกปี เช่นที่เขื่อนลำพระเพลิง จ.นครราชสีมา ดังนั้นพื้นที่เขตชลประทานใน อ.ปักธงชัยและโชคชัย ต้องหารือร่วมกันในการเพาะปลูกข้าว และพืชหน้าแล้ง ซึ่งขณะนี้จากการรายงานของชลประทานนครราชสีมา พื้นที่การปลูกข้าวนาปรังยังเป็นไปตามเป้าหมาย แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้มีการเพิ่มพื้นที่ปลูก
