นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าปีนี้กระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำกรอบยุทธศาสตร์การค้าทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่จะทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศมีอัตราการเติบโต ในขณะที่ด้านการค้าต่างประเทศมีแผนในหลายด้าน จึงมั่นใจว่า จากภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่มีการปรับตัวดีขึ้นหลังจากนี้ไปน่าจะส่งผลให้แผนการผลักดันการส่งออกไปตลาดต่างประเทศทั่วโลกมีการปรับตัวดีขึ้นเป็นบวก โดยปีนี้ได้ตั้งเป้าตัวเลขการส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 14-15 คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลให้อัตรการเติบโตของจีดีพีขยายตัวร้อยละ 4 จากที่หลายสำนักคาดการณ์ไว้ว่า จีดีพีจะอยู่ที่ 3- 3.5 ขณะเดียวกันอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ร้อยละ 3-3.5 เช่นเดียวกัน
นางพรทิวา กล่าวอีกว่าแนวทางการเจาะตลาดที่กระทรวงพาณิชย์วางเป้าหมายในปีนี้ โดยเฉพาะตามกรอบการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน (อาฟตา) ที่เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา จะมีการรุกทำตลาดอาเซียนอย่างเต็มที่ เพราะเชื่อมั่นว่า ตลาดอาเซียนมีศักยภาพ และเป็นตลาดสำคัญของไทย ซึ่งในปีนี้มองว่า การส่งออกไปตลาดอาเซียนจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 มีมูลค่ามากกว่า 1.1 ล้านล้านบาท ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศจะมีการจัดตั้งศูนย์แสดงสินค้าประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ไทย-ลาว ไทย-กัมพูชา ไทย-มาเลเซีย และไทย-พม่า
นางพรทิวา กล่าวอีกว่าแนวทางการเจาะตลาดที่กระทรวงพาณิชย์วางเป้าหมายในปีนี้ โดยเฉพาะตามกรอบการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน (อาฟตา) ที่เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา จะมีการรุกทำตลาดอาเซียนอย่างเต็มที่ เพราะเชื่อมั่นว่า ตลาดอาเซียนมีศักยภาพ และเป็นตลาดสำคัญของไทย ซึ่งในปีนี้มองว่า การส่งออกไปตลาดอาเซียนจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 มีมูลค่ามากกว่า 1.1 ล้านล้านบาท ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศจะมีการจัดตั้งศูนย์แสดงสินค้าประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ไทย-ลาว ไทย-กัมพูชา ไทย-มาเลเซีย และไทย-พม่า