นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. พิจารณาคดีเงินบริจาค จำนวน 258 ล้านบาท และเงินสนับสนุนของ กกต. 23 ล้านบาท ของพรรคประชาธิปัตย์ อย่างตรงไปตรงมาโดยไม่มีวาระซ่อนเร้น และขอให้ใช้มาตรฐานเดียวกันกับที่เคยเสนอยุบพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน
ทั้งนี้ ตนเห็นว่า การที่นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณากณีดังกล่าวซ้ำอีก 1 ชุด แสดงให้เห็นว่า อาจมีการยื้อเวลาในการพิจารณาคดีดังกล่าวออกไป อีกทั้งคณะกรรมการที่ตั้งภายหลังไม่ได้ผ่านมติ กกต. จึงตั้งข้อสังเกตว่า ความเห็นของคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะมีผลทางกฎหมายหรือไม่
อย่างไรก็ตาม โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า เหตุผลที่ประธาน กกต.อ้างว่า คดีดังกล่าวยังมีเอกสารที่ต้องพิจารณาอีกจำนวนมาก จึงไม่สามารถพิจารณาให้เสร็จได้ทันภายในเดือนมกราคมนี้นั้น เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เป็นเพียงการซื้อเวลาเพียงเท่านั้น
ทั้งนี้ ตนเห็นว่า การที่นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณากณีดังกล่าวซ้ำอีก 1 ชุด แสดงให้เห็นว่า อาจมีการยื้อเวลาในการพิจารณาคดีดังกล่าวออกไป อีกทั้งคณะกรรมการที่ตั้งภายหลังไม่ได้ผ่านมติ กกต. จึงตั้งข้อสังเกตว่า ความเห็นของคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะมีผลทางกฎหมายหรือไม่
อย่างไรก็ตาม โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า เหตุผลที่ประธาน กกต.อ้างว่า คดีดังกล่าวยังมีเอกสารที่ต้องพิจารณาอีกจำนวนมาก จึงไม่สามารถพิจารณาให้เสร็จได้ทันภายในเดือนมกราคมนี้นั้น เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เป็นเพียงการซื้อเวลาเพียงเท่านั้น