นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ขึ้นเบิกความต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับการอนุมัติเงินกู้ให้รัฐบาลทหารพม่าเพิ่มเติม จาก 3,000 ล้านบาทเดิม เพื่อนำไปพัฒนากิจการโทรคมนาคมของพม่า เนื่องจากห่วงใยว่าจะถูกครหา เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเจ้าของกิจการโทรคมนาคมรายใหญ่ในประเทศไทย อาจเกิดปัญหาขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนรวมกับผลประโยชน์ส่วนตัวได้ และได้เสนอข้อห่วงใยดังกล่าวต่ออดีตนายกรัฐมนตรีไปแล้ว โดยได้นำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติเงินกู้ให้พม่า ถึง 2 ครั้ง สุดท้ายคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า หรือเอ็กซิมแบงก์ ให้สินเชื่อแก่พม่า เป็นเงิน 4,000 ล้านบาท ส่วนรายละเอียดว่า รัฐบาลพม่าจะนำไปใช้ในกิจการใด เป็นข้อตกลงที่เอ็กซิมแบงก์ต้องดำเนินการร่วมกับรัฐบาลทหารพม่าเอง
พร้อมยอมรับว่า ส่วนตัวไม่ทราบเรื่องที่พม่าตกลงซื้อขายอุปกรณ์โทรคมนาคมกับบริษัทชินแซทเทลไลท์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัทของอดีตนายกรัฐมนตรี โดยตนเองเพิ่งทราบเรื่องจากการเข้าให้ถ้อยคำของ คตส.
อย่างไรก็ตาม นายกล้านรงค์ จันทิก อดีตกรรมการ คตส.ขึ้นเบิกความต่อศาลเป็นพยานฝ่ายผู้ร้องปากสุดท้าย ต่อไป
พร้อมยอมรับว่า ส่วนตัวไม่ทราบเรื่องที่พม่าตกลงซื้อขายอุปกรณ์โทรคมนาคมกับบริษัทชินแซทเทลไลท์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัทของอดีตนายกรัฐมนตรี โดยตนเองเพิ่งทราบเรื่องจากการเข้าให้ถ้อยคำของ คตส.
อย่างไรก็ตาม นายกล้านรงค์ จันทิก อดีตกรรมการ คตส.ขึ้นเบิกความต่อศาลเป็นพยานฝ่ายผู้ร้องปากสุดท้าย ต่อไป
