พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงจับกุมชาวเนปาล 1 คน และชาวอิหร่าน 2 คน พร้อมของกลางเงินสด 1,600,000 บาท ที่ใช้ในการล่อซื้อยาไอซ์ โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ สกุลริงกิตมาเลเซีย และเงินสกุลเรียลอิหร่านจำนวนหนึ่ง โดยจับกุมได้ที่ห้องเลขที่ 434 โรงแรมปริ๊นซ์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่
พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจปราบปรามอบายมุขสืบทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาเป็นแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ ที่มักจะขายยาครั้งละหลายกิโลกรัม จึงวางแผนจับกุมโดยวิธีการล่อซื้อยาไอซ์ 3 กิโลกรัม ในราคา 4,800,000 บาท โดยนัดส่งยากันที่โรงแรมดังกล่าว แต่กลุ่มผู้ต้องหากล่าวว่าสามารถหายาไอซ์ได้แค่ 1 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จึงขอซื้อในราคา 1,600,000 บาท ก่อนที่จะนัดส่งยา แต่ผู้ต้องหาเกิดไหวตัว นำยาไอซ์ไปเททิ้งชักโครก จึงทำให้ของกลางที่ล่อซื้อเหลือเพียงเล็กน้อย
เบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพว่า รับยาไอซ์มาจากชาวปากีสถานที่พัทยา จากนั้นนำมาจำหน่ายให้กับลูกค้า ทั้งชาวไทยและต่างชาติในกรุงเทพฯ แต่ตำรวจไม่เชื่อ และคาดว่า แก๊งนี้น่าจะเป็นเครือข่ายใหญ่ที่ลักลอบขนยาไอซ์เข้ามาขายในไทย ซึ่งหลังจากนี้ จะทำการสอบสวนและขยายผลต่อไป
พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจปราบปรามอบายมุขสืบทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาเป็นแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ ที่มักจะขายยาครั้งละหลายกิโลกรัม จึงวางแผนจับกุมโดยวิธีการล่อซื้อยาไอซ์ 3 กิโลกรัม ในราคา 4,800,000 บาท โดยนัดส่งยากันที่โรงแรมดังกล่าว แต่กลุ่มผู้ต้องหากล่าวว่าสามารถหายาไอซ์ได้แค่ 1 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จึงขอซื้อในราคา 1,600,000 บาท ก่อนที่จะนัดส่งยา แต่ผู้ต้องหาเกิดไหวตัว นำยาไอซ์ไปเททิ้งชักโครก จึงทำให้ของกลางที่ล่อซื้อเหลือเพียงเล็กน้อย
เบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพว่า รับยาไอซ์มาจากชาวปากีสถานที่พัทยา จากนั้นนำมาจำหน่ายให้กับลูกค้า ทั้งชาวไทยและต่างชาติในกรุงเทพฯ แต่ตำรวจไม่เชื่อ และคาดว่า แก๊งนี้น่าจะเป็นเครือข่ายใหญ่ที่ลักลอบขนยาไอซ์เข้ามาขายในไทย ซึ่งหลังจากนี้ จะทำการสอบสวนและขยายผลต่อไป
