กองทัพภาคที่ 3 จัดตั้งกองบัญชาการเฉพาะกิจควบคุมไฟป่า และหมอกควันขึ้น พร้อมทั้งจัดเตรียมอุปกรณ์ และกำลังพลกว่า 3,000 นาย เตรียมพร้อมในการดับไฟป่า ที่สำคัญในปีนี้ ศูนย์การบินทหารบก ได้สนับสนุนอากาศยานร่วมดับไฟป่าเป็นปีแรก
ขณะที่เจ้าหน้าที่ป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้นำอุปกรณ์การดับไฟป่า ไปมอบให้กับตัวแทนชาวบ้านใน 15 หมู่บ้าน ในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งขณะนี้มีการจัดตั้งอาสาสมัครดับไฟป่าขึ้น หมู่บ้านละ 8 คน เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์ไฟป่า ทั้งนี้เพราะเชื่อว่าในปีนี้ สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ จ.พะเยาจะรุนแรง เนื่องจากสภาพอากาศแห้งแล้งมาเร็ว และขยายวงกว้างกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา
นายทวีศักดิ์ วัฒนธรรมรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ปล่อยขบวนรถน้ำ และอาสาสมัครดับไฟป่าลงพื้นที่เสี่ยง เพื่อสกัดกั้นไม่ให้เกิดไฟป่า ทั้งนี้เพราะตัวเลขในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายนปีนี้ พบว่าเกิดไฟป่าขึ้นใน จ.แม่ฮ่องสอน ถึง 487 ครั้ง ใน 7 อำเภอ และมีพื้นที่ป่าได้รับความเสียหายกว่า 8,000 ไร่ ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากไฟป่าและหมอกควัน 8,014 คน
ส่วนที่ จ.เชียงราย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีหมอกหนาทึบ ทำให้เครื่องบินของสายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินเอฟดี 3250 ซึ่งพาผู้โดยสารจากกรุงเทพมหานครจะลงที่สนามบินเชียงรายในเวลา 08.20 น.ไม่สามารถลงได้ เนื่องจากทัศนวิสัยไม่ดี ต้องบินวนเกือบ 30 นาที จึงลงจอดได้ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดขณะนี้หมอกได้เบาบางลง และเครื่องบินสามารถบินขึ้นลงได้ตามปกติแล้ว
ขณะที่เจ้าหน้าที่ป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้นำอุปกรณ์การดับไฟป่า ไปมอบให้กับตัวแทนชาวบ้านใน 15 หมู่บ้าน ในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งขณะนี้มีการจัดตั้งอาสาสมัครดับไฟป่าขึ้น หมู่บ้านละ 8 คน เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์ไฟป่า ทั้งนี้เพราะเชื่อว่าในปีนี้ สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ จ.พะเยาจะรุนแรง เนื่องจากสภาพอากาศแห้งแล้งมาเร็ว และขยายวงกว้างกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา
นายทวีศักดิ์ วัฒนธรรมรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ปล่อยขบวนรถน้ำ และอาสาสมัครดับไฟป่าลงพื้นที่เสี่ยง เพื่อสกัดกั้นไม่ให้เกิดไฟป่า ทั้งนี้เพราะตัวเลขในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายนปีนี้ พบว่าเกิดไฟป่าขึ้นใน จ.แม่ฮ่องสอน ถึง 487 ครั้ง ใน 7 อำเภอ และมีพื้นที่ป่าได้รับความเสียหายกว่า 8,000 ไร่ ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากไฟป่าและหมอกควัน 8,014 คน
ส่วนที่ จ.เชียงราย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีหมอกหนาทึบ ทำให้เครื่องบินของสายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินเอฟดี 3250 ซึ่งพาผู้โดยสารจากกรุงเทพมหานครจะลงที่สนามบินเชียงรายในเวลา 08.20 น.ไม่สามารถลงได้ เนื่องจากทัศนวิสัยไม่ดี ต้องบินวนเกือบ 30 นาที จึงลงจอดได้ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดขณะนี้หมอกได้เบาบางลง และเครื่องบินสามารถบินขึ้นลงได้ตามปกติแล้ว