กลุ่มสิทธิมนุษยชนฮิวแมน ไรทส์ วอทช์ รายงานว่า ปัญหาการทุจริต และการจัดการผิดพลาดในอุตสาหกรรมป่าไม้อินโดนีเซีย ก่อให้เกิดความเสียหายปีละ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเท่ากับงบประมาณด้านสาธารณสุขทั้งหมดของประเทศ
ฮิวแมน ไรทส์ วอทช์ เปิดเผยผลการสอบสวนที่ระบุว่า อินโดนีเซียสูญเสียรายได้ถึง 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงเวลา 4 ปี จนถึงปี 2549 โดยมูลค่าความเสียหายเพิ่มขึ้นทุกปี จากปี 2546 ที่เสียหาย 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แล้วเพิ่มเป็น 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2549 เพราะสูญเสียรายได้จากการเก็บภาษีไปกับการลักลอบตัดไม้ผิดกฎหมาย สัมปทานป่าไม้ราคาต่ำกว่าความเป็นจริง และการที่บริษัททำป่าไม้รายงานยอดส่งออกไม้ให้บริษัทสาขาในต่างประเทศต่ำกว่าความเป็นจริง
รายงานระบุว่า การทุจริตในอุตสาหกรรมป่าไม้อินโดนีเซีย ถือเป็นประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน รวมทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ เพราะเม็ดเงินที่สูญเสียไปมีความจำเป็นต่อภาคสาธารณสุข และโครงการทางสังคมอื่นๆ ฮิวแมน ไรทส์ วอทช์เตือนรัฐบาลประเทศต่างๆ ให้ระมัดระวังการซื้อไม้จากอินโดนีเซีย เพื่ออนุรักษ์สภาพป่าฝนแห่งนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในผืนป่าขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และจะเป็นประเด็นในการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในเดนมาร์ก ที่คาดว่า จะมีการพิจารณาแผนการจ่ายเงินให้ประเทศยากจนในการอนุรักษ์ป่าไม้ ซึ่งมีความสำคัญในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
แม้จะสูญเสียรายได้จากปัญหาการทุจริต และความผิดพลาดในการจัดการ แต่อุตสาหกรรมป่าไม้ทำรายได้มหาศาลให้อินโดนีเซีย โดยเมื่อปี 2550 อินโดนีเซียมีรายได้จากอุตสาหกรรมนี้ 6,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กลายเป็นประเทศที่ทำเงินจากอุตสาหกรรมป่าไม้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากบราซิล
ฮิวแมน ไรทส์ วอทช์ เปิดเผยผลการสอบสวนที่ระบุว่า อินโดนีเซียสูญเสียรายได้ถึง 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงเวลา 4 ปี จนถึงปี 2549 โดยมูลค่าความเสียหายเพิ่มขึ้นทุกปี จากปี 2546 ที่เสียหาย 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แล้วเพิ่มเป็น 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2549 เพราะสูญเสียรายได้จากการเก็บภาษีไปกับการลักลอบตัดไม้ผิดกฎหมาย สัมปทานป่าไม้ราคาต่ำกว่าความเป็นจริง และการที่บริษัททำป่าไม้รายงานยอดส่งออกไม้ให้บริษัทสาขาในต่างประเทศต่ำกว่าความเป็นจริง
รายงานระบุว่า การทุจริตในอุตสาหกรรมป่าไม้อินโดนีเซีย ถือเป็นประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน รวมทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ เพราะเม็ดเงินที่สูญเสียไปมีความจำเป็นต่อภาคสาธารณสุข และโครงการทางสังคมอื่นๆ ฮิวแมน ไรทส์ วอทช์เตือนรัฐบาลประเทศต่างๆ ให้ระมัดระวังการซื้อไม้จากอินโดนีเซีย เพื่ออนุรักษ์สภาพป่าฝนแห่งนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในผืนป่าขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และจะเป็นประเด็นในการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในเดนมาร์ก ที่คาดว่า จะมีการพิจารณาแผนการจ่ายเงินให้ประเทศยากจนในการอนุรักษ์ป่าไม้ ซึ่งมีความสำคัญในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
แม้จะสูญเสียรายได้จากปัญหาการทุจริต และความผิดพลาดในการจัดการ แต่อุตสาหกรรมป่าไม้ทำรายได้มหาศาลให้อินโดนีเซีย โดยเมื่อปี 2550 อินโดนีเซียมีรายได้จากอุตสาหกรรมนี้ 6,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กลายเป็นประเทศที่ทำเงินจากอุตสาหกรรมป่าไม้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากบราซิล