รศ.ดร.ธำรงรัตน์ มุ่งเจริญ ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยผลิตภัณฑ์เชิงนิเวศ เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ หรือเอ็มเทค กล่าวว่า เอ็มเทคได้ลงนามความร่วมมือกับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และองค์การบริการจัดการก๊าซเรือนกระจกมหาชน หรือ อบก. จัดทำสลาก 2 ประเภท ได้แก่ Carbon Reduction Label ซึ่งเป็นสลากรับรองว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยถือเป็นเกณฑ์กระบวนการผลิตที่ใช้ภายในประเทศ ส่วนสลาก Carbon Footprint ซึ่งเป็นสลากระบุปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์ตลอดวัฏวัจรชีวิต
โดยเอ็มเทคเป็นผู้พัฒนาเทคนิคการคำนวณปริมาณคาร์บอนขึ้นเอง เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันระหว่างประเทศ และในปี 2554 ประเทศฝรั่งเศสจะบังคับให้ผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าทุกประเภทต้องมีสลากตัวนี้ ซึ่งเป็นสาเหตุให้ประเทศไทยต้องมีการเตรียมพร้อมรับมือ
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 25 ธันวาคมนี้ จะเปิดผลิตภัณฑ์ส่งออกที่ได้สลาก Carbon Footprint จำนวนกว่า 10 ชนิด อย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ 3 ของเอเชีย รองจากประเทศญี่ปุ่นและเกาหลี ที่ให้ความสำคัญกับสลากสินค้า โดยมุ่งเป็นผู้นำทางอาเซียน เผยแพร่สินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โดยเอ็มเทคเป็นผู้พัฒนาเทคนิคการคำนวณปริมาณคาร์บอนขึ้นเอง เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันระหว่างประเทศ และในปี 2554 ประเทศฝรั่งเศสจะบังคับให้ผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าทุกประเภทต้องมีสลากตัวนี้ ซึ่งเป็นสาเหตุให้ประเทศไทยต้องมีการเตรียมพร้อมรับมือ
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 25 ธันวาคมนี้ จะเปิดผลิตภัณฑ์ส่งออกที่ได้สลาก Carbon Footprint จำนวนกว่า 10 ชนิด อย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ 3 ของเอเชีย รองจากประเทศญี่ปุ่นและเกาหลี ที่ให้ความสำคัญกับสลากสินค้า โดยมุ่งเป็นผู้นำทางอาเซียน เผยแพร่สินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
