นายวิจิตร จันทรปาน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดสงขลา เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ล่าสุดเกือบสู่ภาวะปกติแล้ว เหลือเพียงพื้นที่ลุ่ม 4 อำเภอ ยังมีน้ำท่วมขัง คือ จะนะ เทพา บางกล่ำ และสะเดา ซึ่งเจ้าหน้าที่เร่งสูบน้ำระบายออก โดยเฉพาะ อ.บางกล่ำ เป็นพื้นที่รองรับน้ำก่อนไหลระบายออกสู่ทะเลสาบสงขลา
ขณะเดียวกัน การช่วยเหลือผู้ประสบภัยยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนายโตน กร่อมี นายอำเภอบางกล่ำ จะเรียกประชุมสรุปสถานการณ์ เพื่อวางแนวทางแก้ปัญหาน้ำทะลักท่วมบ้านเรือนราษฎรจากประตูระบายน้ำตามคันคลอง ร.1 ชำรุด และระบายน้ำลงสู่ทะเลสาบสงขลาได้ช้า รวมทั้งเตรียมรับสถานการณ์น้ำท่วมระลอกสองช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้
ส่วน จ.นราธิวาส สภาพน้ำท่วมทั้ง 13 อำเภอ ดีขึ้นมาก หลังจากฝนหยุดตกมา 3 วัน ส่งผลระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง ยกเว้น 3 อำเภอ คือ รือเสาะ ตากใบ และสุไหงโก-ลก ยังมีน้ำท่วมขัง 80-100 เซนติเมตร เพราะแม่น้ำสายหลักทั้งแม่น้ำสุไหงโก-ลก แม่น้ำบางนรา และแม่น้ำสายบุรี อยู่ในภาวะน้ำล้นตลิ่ง ราษฎรเดือดร้อนกว่า 500 หลังคาเรือน
ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยวาตภัยและดินถล่ม จังหวัดนราธิวาส รายงานความเสียหายเบื้องต้นจากน้ำท่วม ตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายนถึงขณะนี้ว่า ชาวบ้านเดือดร้อน 26,525 ครัวเรือน รวม 124,335 คน มีผู้เสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บ 1 ราย บ้านเรือนเสียหาย 17 หลัง บ่อปลา 130 บ่อ พื้นที่การเกษตรเสียหาย 26,054 ไร่ ถนนถูกน้ำกัดเซาะเสียหาย 119 สาย สะพานและคอสะพานถูกน้ำกัดเซาะเสียหาย 14 แห่ง ถนนสาย 4062 ช่วงเขตรอยต่อระหว่างบ้านกูมุง-บ้านไอร์ซากอ อ.จะแนะ กับ อ.สุคิริน ขาด ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ วัดและมัสยิดถูกน้ำท่วมขัง 7 แห่ง
นอกจากนี้ ผลพวงของการระบายน้ำท่วมขังลงสู่ทะเลโดยผ่านประตูระบายน้ำบางนราตอนบน ยังคงส่งผลกระทบต่อผู้เลี้ยงปลาในกระชังแถบบริเวณอ่าวมะนาวและเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ทำให้ปลาเก๋าและปลากะพงตายไปจำนวนมาก ชาวบ้านเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือด่วน
ขณะเดียวกัน การช่วยเหลือผู้ประสบภัยยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนายโตน กร่อมี นายอำเภอบางกล่ำ จะเรียกประชุมสรุปสถานการณ์ เพื่อวางแนวทางแก้ปัญหาน้ำทะลักท่วมบ้านเรือนราษฎรจากประตูระบายน้ำตามคันคลอง ร.1 ชำรุด และระบายน้ำลงสู่ทะเลสาบสงขลาได้ช้า รวมทั้งเตรียมรับสถานการณ์น้ำท่วมระลอกสองช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้
ส่วน จ.นราธิวาส สภาพน้ำท่วมทั้ง 13 อำเภอ ดีขึ้นมาก หลังจากฝนหยุดตกมา 3 วัน ส่งผลระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง ยกเว้น 3 อำเภอ คือ รือเสาะ ตากใบ และสุไหงโก-ลก ยังมีน้ำท่วมขัง 80-100 เซนติเมตร เพราะแม่น้ำสายหลักทั้งแม่น้ำสุไหงโก-ลก แม่น้ำบางนรา และแม่น้ำสายบุรี อยู่ในภาวะน้ำล้นตลิ่ง ราษฎรเดือดร้อนกว่า 500 หลังคาเรือน
ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยวาตภัยและดินถล่ม จังหวัดนราธิวาส รายงานความเสียหายเบื้องต้นจากน้ำท่วม ตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายนถึงขณะนี้ว่า ชาวบ้านเดือดร้อน 26,525 ครัวเรือน รวม 124,335 คน มีผู้เสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บ 1 ราย บ้านเรือนเสียหาย 17 หลัง บ่อปลา 130 บ่อ พื้นที่การเกษตรเสียหาย 26,054 ไร่ ถนนถูกน้ำกัดเซาะเสียหาย 119 สาย สะพานและคอสะพานถูกน้ำกัดเซาะเสียหาย 14 แห่ง ถนนสาย 4062 ช่วงเขตรอยต่อระหว่างบ้านกูมุง-บ้านไอร์ซากอ อ.จะแนะ กับ อ.สุคิริน ขาด ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ วัดและมัสยิดถูกน้ำท่วมขัง 7 แห่ง
นอกจากนี้ ผลพวงของการระบายน้ำท่วมขังลงสู่ทะเลโดยผ่านประตูระบายน้ำบางนราตอนบน ยังคงส่งผลกระทบต่อผู้เลี้ยงปลาในกระชังแถบบริเวณอ่าวมะนาวและเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ทำให้ปลาเก๋าและปลากะพงตายไปจำนวนมาก ชาวบ้านเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือด่วน