นราธิวาส – สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ถึงแม้ฝนหยุดตกมา 2 วันแล้ว แต่น้ำยังท่วมขังอยู่ใน 13 อำเภอ และผลพวงจากการระบายน้ำส่งผลให้ปลาในกระชังตายเป็นเบือ ส่วน 8 ศพที่ถูกดินถล่มใส่บ้าน เจ้าหน้าที่ขุดพบศพทั้งหมดแล้ว
ความคืบหน้าเกี่ยวกับภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่จ.นราธิวาสแจ้งว่า ล่าสุด วันนี้ (8 พ.ย.) บรรยากาศโดยทั่วไปท้องฟ้าแจ่มใส่และฝนได้หยุดตกติดต่อกันเป็นเวลา 2 วันแล้ว แต่ภาวะน้ำท่วมขังบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรของราษฎรในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภออยู่ในระดับน้ำที่ทรงตัว โดยมีความสูงเฉลี่ยประมาณ 1.20-2.20 เมตร แต่ยังมีบางพื้นที่ที่อยู่ในที่ราบลุ่มของ 8 อำเภอ คือ อำเภอบาเจาะ รือเสาะ จะแนะ ระแงะ ตากใบ แว้ง ศรีสาครและอำเภอสุไหงโก-ลก ยังคงมีปริมาณน้ำท่วมขังที่สูงขึ้นจากเดิมวานนี้ประมาณ 30 เซนติเมตร
เนื่องจากน้ำในพื้นที่สูงและน้ำในแม่น้ำสายหลัก 3 สาย คือ แม่น้ำสุไหงโก-ลก บางนรา และแม่น้ำสายบุรี ได้ไหลทะลักลงไปสมทบ และคาดว่าหากฝนหยุดตกอย่างต่อเนื่อง ระดับน้ำท่วมขังโดยภาพรวมในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ จะลดลงอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ผลพวงจากการระบายน้ำท่วมขังของเจ้าหน้าที่ประตูระบายน้ำบางนราตอนบน ที่เปิดประตูน้ำเพื่อระบายน้ำท่วมขังลงสู่ทะเลเป็นเวลา 2 วันติดต่อกัน ส่งผลทำให้ปลากะพง และปลาเก๋าที่ชาวบ้านกว่า 300 ครัวเรือนที่เลี้ยงในกระชังคลองโคกเคียน ต.โคกเคียนและแม่น้ำบางนรา เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส จำนวนกว่า 600 กระชัง กระชังละประมาณ 3,000 ตัว ตายเป็นเบื่อ อันเนื่องมาจากน้ำจืดได้ไหลลงไปสมทบจนปลาในกระชังพากันสำลักน้ำตาย
ด้าน นายยาการียา เจ๊ะยิ อายุ 55 ปี ตัวแทนชาวบ้านที่เลี้ยงปลาเก๋าในกระชัง เปิดเผยว่า การเปิดประตูระบายน้ำที่ท่วมขังลงสู่ทะเลในครั้งนี้ ส่งผลทำให้ปลาเก๋าในกระชังของชาวบ้านพากันตายเป็นเบื่อและแทบสิ้นเนื้อประดาตัว เนื่องจากปลาส่วนใหญ่อีกประมาณ 2 เดือน สามารถจับนำออกไปจำหน่ายสู่ท้องตลาดได้แล้ว โดยตกกิโลกรัมละ 180 บาท แต่เมื่อปลามาตายทำให้เจ้าของกระชังแต่ละแห่งต่างพากันเป็นหนี้เป็นสิน เพราะส่วนใหญ่จะกู้เงินนอกระบบมาลงทุน จึงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นราธิวาส ได้สรุปความเสียหายล่าสุดจากผลกระทบของภาวะน้ำท่วมขังในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ดังนี้ มีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากภาวะน้ำท่วมขังบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตร จำนวน 363 หมู่บ้าน 68 ตำบล 13 อำเภอ 25.393 ครัวเรือน รวม 114.235 คนบ้านเรือนได้รับความเสียหาย 14 หลัง พื้นที่ทางการเกษตรถูกน้ำท่วมขัง 20.224 ไร่ บ่อปลาเสียหาย 28 บ่อ ถนนสายหลักและสายรองถูกน้ำท่วมขังไม่สามารถสัญจรไปมาได้ 126 สาย สะพานและคอสะพานถูกน้ำกัดเซาะเสียหาย 5 แห่ง วัดโรงเรียนมัสยิดและสถานที่ราชการถูกน้ำท่วมขัง 19 แห่ง
ส่วนกรณีศพ 8 ผู้เสียชีวิตตระกูลสาแล ที่ถูกดินเชิงเขาถล่มใส่บ้านพักเลขที่ 29 บ้านไอเจี๊ยะ ม.5 ต.ซากอ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 6 พ.ย.52 ที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถนำรถแบ็กโฮและใช้กำลังคน ช่วยกันขุดค้นหาศพของ 8 ผู้เสียชีวิตได้แล้วทั้งหมดในช่วงค่ำของคืนที่ผ่านมา ซึ่งทางเครือญาติได้ทยอยรับศพจากโรงพยาบาลศรีสาครไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว
ความคืบหน้าเกี่ยวกับภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่จ.นราธิวาสแจ้งว่า ล่าสุด วันนี้ (8 พ.ย.) บรรยากาศโดยทั่วไปท้องฟ้าแจ่มใส่และฝนได้หยุดตกติดต่อกันเป็นเวลา 2 วันแล้ว แต่ภาวะน้ำท่วมขังบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรของราษฎรในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภออยู่ในระดับน้ำที่ทรงตัว โดยมีความสูงเฉลี่ยประมาณ 1.20-2.20 เมตร แต่ยังมีบางพื้นที่ที่อยู่ในที่ราบลุ่มของ 8 อำเภอ คือ อำเภอบาเจาะ รือเสาะ จะแนะ ระแงะ ตากใบ แว้ง ศรีสาครและอำเภอสุไหงโก-ลก ยังคงมีปริมาณน้ำท่วมขังที่สูงขึ้นจากเดิมวานนี้ประมาณ 30 เซนติเมตร
เนื่องจากน้ำในพื้นที่สูงและน้ำในแม่น้ำสายหลัก 3 สาย คือ แม่น้ำสุไหงโก-ลก บางนรา และแม่น้ำสายบุรี ได้ไหลทะลักลงไปสมทบ และคาดว่าหากฝนหยุดตกอย่างต่อเนื่อง ระดับน้ำท่วมขังโดยภาพรวมในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ จะลดลงอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ผลพวงจากการระบายน้ำท่วมขังของเจ้าหน้าที่ประตูระบายน้ำบางนราตอนบน ที่เปิดประตูน้ำเพื่อระบายน้ำท่วมขังลงสู่ทะเลเป็นเวลา 2 วันติดต่อกัน ส่งผลทำให้ปลากะพง และปลาเก๋าที่ชาวบ้านกว่า 300 ครัวเรือนที่เลี้ยงในกระชังคลองโคกเคียน ต.โคกเคียนและแม่น้ำบางนรา เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส จำนวนกว่า 600 กระชัง กระชังละประมาณ 3,000 ตัว ตายเป็นเบื่อ อันเนื่องมาจากน้ำจืดได้ไหลลงไปสมทบจนปลาในกระชังพากันสำลักน้ำตาย
ด้าน นายยาการียา เจ๊ะยิ อายุ 55 ปี ตัวแทนชาวบ้านที่เลี้ยงปลาเก๋าในกระชัง เปิดเผยว่า การเปิดประตูระบายน้ำที่ท่วมขังลงสู่ทะเลในครั้งนี้ ส่งผลทำให้ปลาเก๋าในกระชังของชาวบ้านพากันตายเป็นเบื่อและแทบสิ้นเนื้อประดาตัว เนื่องจากปลาส่วนใหญ่อีกประมาณ 2 เดือน สามารถจับนำออกไปจำหน่ายสู่ท้องตลาดได้แล้ว โดยตกกิโลกรัมละ 180 บาท แต่เมื่อปลามาตายทำให้เจ้าของกระชังแต่ละแห่งต่างพากันเป็นหนี้เป็นสิน เพราะส่วนใหญ่จะกู้เงินนอกระบบมาลงทุน จึงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นราธิวาส ได้สรุปความเสียหายล่าสุดจากผลกระทบของภาวะน้ำท่วมขังในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ดังนี้ มีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากภาวะน้ำท่วมขังบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตร จำนวน 363 หมู่บ้าน 68 ตำบล 13 อำเภอ 25.393 ครัวเรือน รวม 114.235 คนบ้านเรือนได้รับความเสียหาย 14 หลัง พื้นที่ทางการเกษตรถูกน้ำท่วมขัง 20.224 ไร่ บ่อปลาเสียหาย 28 บ่อ ถนนสายหลักและสายรองถูกน้ำท่วมขังไม่สามารถสัญจรไปมาได้ 126 สาย สะพานและคอสะพานถูกน้ำกัดเซาะเสียหาย 5 แห่ง วัดโรงเรียนมัสยิดและสถานที่ราชการถูกน้ำท่วมขัง 19 แห่ง
ส่วนกรณีศพ 8 ผู้เสียชีวิตตระกูลสาแล ที่ถูกดินเชิงเขาถล่มใส่บ้านพักเลขที่ 29 บ้านไอเจี๊ยะ ม.5 ต.ซากอ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 6 พ.ย.52 ที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถนำรถแบ็กโฮและใช้กำลังคน ช่วยกันขุดค้นหาศพของ 8 ผู้เสียชีวิตได้แล้วทั้งหมดในช่วงค่ำของคืนที่ผ่านมา ซึ่งทางเครือญาติได้ทยอยรับศพจากโรงพยาบาลศรีสาครไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว
