ลือ!! ปิดด่าน กระทบการค้าชายแดนไทย-เขมรด้านจันทบุรี สูญรายได้กว่า 100 ล.

นายอิสิวุฒ ตั้งเกียรติ์ นายกสมาคมการค้า และ การท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.จันทบุรี เปิดเผยว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ จ.จันทบุรี ภายหลังจากที่รัฐบาลไทยเรียกทูตไทยประจำกรุงพนมเปญกลับประเทศ ได้เกิดข่าวลือว่าจะมีการปิดด่านทำให้ผู้ประกอบการกัมพูชาขาดความมั่นใจ หลายรายยกเลิกและชะลอการนำเข้าสินค้า ทำให้สินค้าตกค้างในประเทศไทย มูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท ขณะที่ผู้ประกอบการชาวสวนลำไย บริเวณชายแดนซึ่งกำลังให้ผลผลิตและต้องพึ่งแรงงานชาวกัมพูชาเป็นหลัก ก็กลัวว่าหากด่านปิดจริงส่งผลกระทบ โดยปัจจุบันมีการนำเข้าแรงงานชาวกัมพูชาแบบเช้าไป เย็นกลับ วันละมากกว่า 20,000 คน ค่าแรงรายละ 80 - 90 บาท ซึ่งถูกกว่าอัตราค่าจ้างคนไทย ที่ขาดแคลน โดยในส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับมาตรการตอบโต้ของรัฐบาล ที่นำการเมืองมาใช้กับการปกครองประเทศมากไป ซึ่งรัฐบาลควรคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก มากกว่าตอบโต้ทางการเมือง ทั้งที่การแก้ปัญหาภาคเกษตรกรของรัฐบาลเดินมาถูกทางแล้ว การเรียกทูตกลับรัฐบาลควรชี้แจงเหตุผลว่าเรียกเพื่อสอบถามข้อมูล หรือเรียกเพื่อปรับเปลี่ยนแนวนโยบาย
ขณะที่ นายเจีย สุภาพ นายอำเภอกอมเรียง จ.พระตะบอง ที่มารับตำแหน่งแทนนายซกกง นายอำเภอคนเก่าที่เพิ่งย้ายไปเป็นรองผู้ว่าราชการ จ.พระตะบอง กล่าวว่า รัฐบาลกัมพูชายังไม่ได้สั่งการใดๆ ลงมา อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาชายแดนด้านจันทบุรีมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันทั้งด้านการค้า การลงทุน การทหาร ความมั่นคง คาดว่าปัญหานี้คงไม่ส่งผลกระทบต่อการปิดด่านชายแดนกัมพูชาทั้ง 5 จุด
ขณะที่ พ.ต.ท.อโนทัย แสงเฟือง สารวัตตรวจคนเข้าเมือง จ.จันทบุรี กล่าวว่า ยังไม่มีการสั่งการใดๆ ลงมา ด่านการค้าถาวร 2 จุดคือด่านการค้าชายแดนไทยถาวรบ้านแหลม และ ด่านการค้าชายแดนไทยถาวรบ้านผักกาด และจุดผ่อนปรนทางการค้าอีก 3 จุดยังเปิดเป็นปกติ ชาวบ้านยังคงใช้เป็นเส้นทางแลกเปลี่ยนสินค้าเดินทางเข้าออกตามปกติ คาดว่าสถานการณ์ชายแดนด้านนี้ ไม่มีความรุนแรงเนื่องจากที่ผ่านมามีการแลกเปลี่ยน กระชับสัมพันธ์ที่ดีกันอย่างต่อเนื่อง