นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะ รณรงค์แจกเอกสารประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนงดทิ้งขยะลงในแม่น้ำลำคลอง จากบริเวณท่าเรือสำนักงานเขตบางกะปิ ถึงท่าเรือวัดศรีบุญเรือง ตามโครงการไม่ทิ้ง ไม่จับ ไม่ปรับ เพื่อรณรงค์ให้ผู้ใช้บริการเรือโดยสารในคลองแสนแสบ รวมถึงประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณแม่น้ำลำคลองช่วยกันดูแลรักษาลำคลองให้สะอาด
ทั้งนี้ จากข้อมูลสำนักการระบายน้ำพบว่า ขณะนี้สถานการณ์ขยะในลำคลองทั่วกรุงเทพมหานคร มีแนวโน้มกลับมารุนแรงอีกครั้ง เนื่องจากยอดขยะและวัชพืชที่เก็บได้ตั้งแต่เดือนมกราคม-สิงหาคม 2552 เก็บได้เฉลี่ยเดือนละ 8.78 ตัน เพิ่มขึ้นมาจาก 8.11 ตัน ของช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว ขณะที่ขยะบนบกมีปริมาณเพิ่มขึ้น จากเฉลี่ยวันละ 8.2-8.5 ตัน ในช่วงต้นปี มาเป็นวันละ 9.2-9.5 ตัน ทำให้ กทม.ต้องรณรงค์อย่างจริงจัง และเพิ่มโทษผู้กระทำผิดทิ้งขยะในพื้นที่สาธารณะ
สำหรับโครงการไม่ทิ้ง ไม่จับ ไม่ปรับ จะรณรงค์ให้ประชาชนทราบล่วงหน้า 1 เดือน จากนั้นจะเริ่มจับปรับผู้ทิ้งขยะลงแม่น้ำลำคลองอย่างจริงจัง ตั้งแต่ 1 ธันวาคมนี้ ค่าปรับเริ่มต้น 1,000 บาทถึงไม่เกิน 10,000 บาทโดยจะมีการตั้งจุดตรวจที่ท่าเรือในคลองแสนแสบ และแม่น้ำเจ้าพระยา
ทั้งนี้ จากข้อมูลสำนักการระบายน้ำพบว่า ขณะนี้สถานการณ์ขยะในลำคลองทั่วกรุงเทพมหานคร มีแนวโน้มกลับมารุนแรงอีกครั้ง เนื่องจากยอดขยะและวัชพืชที่เก็บได้ตั้งแต่เดือนมกราคม-สิงหาคม 2552 เก็บได้เฉลี่ยเดือนละ 8.78 ตัน เพิ่มขึ้นมาจาก 8.11 ตัน ของช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว ขณะที่ขยะบนบกมีปริมาณเพิ่มขึ้น จากเฉลี่ยวันละ 8.2-8.5 ตัน ในช่วงต้นปี มาเป็นวันละ 9.2-9.5 ตัน ทำให้ กทม.ต้องรณรงค์อย่างจริงจัง และเพิ่มโทษผู้กระทำผิดทิ้งขยะในพื้นที่สาธารณะ
สำหรับโครงการไม่ทิ้ง ไม่จับ ไม่ปรับ จะรณรงค์ให้ประชาชนทราบล่วงหน้า 1 เดือน จากนั้นจะเริ่มจับปรับผู้ทิ้งขยะลงแม่น้ำลำคลองอย่างจริงจัง ตั้งแต่ 1 ธันวาคมนี้ ค่าปรับเริ่มต้น 1,000 บาทถึงไม่เกิน 10,000 บาทโดยจะมีการตั้งจุดตรวจที่ท่าเรือในคลองแสนแสบ และแม่น้ำเจ้าพระยา