กลุ่มผู้ค้าแผงลอยจำนวนมากค้าขายกันตามปกติที่บริเวณทางเดินบริเวณโบราณสถานระหว่างกำแพงวัดพระศรีสรรเพชรกับวิหารมงคลบพิตร ภายในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา หลังคณะกรรมการจัดระเบียบพื้นที่รอบวิหารมงคลบพิตร สั่งรื้อถอนเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว แต่กลุ่มผู้ค้ายังขายของในเขตโบราณสถานได้เช่นเดิม ซึ่งส่วนใหญ่อ้างความจำเป็นเรื่องปากท้อง
สำนักงานอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระบุว่า แผงร้านค้าบดบังทัศนียภาพโบราณสถาน โดยคณะกรรมการจัดระเบียบ ได้ตั้งเต็นท์ชั่วคราวเพื่อให้กลุ่มผู้ค้าย้ายไปขายของบริเวณด้านหลังวิหารมงคลบพิตร แต่ไม่มีผู้ค้ารายใดย้ายไปเพราะอ้างว่าทำเลไม่ดี
ขณะที่ ผู้อำนวยการสำนักงานอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เตรียมใช้วิธีการทางกฎหมายแทนการเจรจาแล้ว
อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก เมื่อปี 2543 ก่อนหน้านี้ กรมศิลปากรระบุว่า ยูเนสโกได้แจ้งเตือนอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาว่า อาจเสี่ยงต่อการถูกถอดเป็นมรดกโลกหากไม่แก้ปัญหาการบุกรุกพื้นที่โบราณสถาน หรือไม่มีการบริหารจัดการพื้นที่โบราณสถานอย่างถูกต้อง ขณะที่หน่วยงานในพื้นที่ยังมีความเห็นที่แตกแยกในการแก้ปัญหา
สำนักงานอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระบุว่า แผงร้านค้าบดบังทัศนียภาพโบราณสถาน โดยคณะกรรมการจัดระเบียบ ได้ตั้งเต็นท์ชั่วคราวเพื่อให้กลุ่มผู้ค้าย้ายไปขายของบริเวณด้านหลังวิหารมงคลบพิตร แต่ไม่มีผู้ค้ารายใดย้ายไปเพราะอ้างว่าทำเลไม่ดี
ขณะที่ ผู้อำนวยการสำนักงานอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เตรียมใช้วิธีการทางกฎหมายแทนการเจรจาแล้ว
อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก เมื่อปี 2543 ก่อนหน้านี้ กรมศิลปากรระบุว่า ยูเนสโกได้แจ้งเตือนอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาว่า อาจเสี่ยงต่อการถูกถอดเป็นมรดกโลกหากไม่แก้ปัญหาการบุกรุกพื้นที่โบราณสถาน หรือไม่มีการบริหารจัดการพื้นที่โบราณสถานอย่างถูกต้อง ขณะที่หน่วยงานในพื้นที่ยังมีความเห็นที่แตกแยกในการแก้ปัญหา