นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงผลการจัดเก็บรายได้แผ่นดินจากกิจการสำรวจและผลิต ของผู้รับสัมปทานปิโตรเลียมภายในประเทศและจากพื้นที่พัฒนาร่วมไทย - มาเลเซีย (JDA) ในรอบ 12 เดือนของปีงบประมาณ 2552 เป็นเงินเข้ารัฐทั้งสิ้น 140,959 ล้านบาท สูงกว่ายอดที่จัดเก็บปีงบประมาณ 2551 ซึ่งเก็บได้รวม 121,084 ล้านบาท ถึง 19,875 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 16 โดยรายได้ดังกล่าวประกอบด้วย ค่าภาคหลวงปิโตรเลียมจากผู้รับสัมปทานในประเทศ เป็นเงิน 40,353 ล้านบาท รายได้จากการผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (JDA) เป็นเงิน 6,953 ล้านบาท
สำหรับรายได้แผ่นดินที่สำคัญอีก 2 ประเภท คือ ภาษีเงินได้ปิโตรเลียมและผลประโยชน์ตอบแทนพิเศษที่จัดเก็บได้ เป็นเงินประมาณ 93,652 ล้านบาท แบ่งเป็นภาษีเงินได้ปิโตรเลียมซึ่งจัดเก็บโดยกรมสรรพากร เป็นเงิน 86,664 ล้านบาท และรายได้จากผลประโยชน์ตอบแทนพิเศษตามสัมปทานปิโตรเลียม ซึ่งจัดเก็บจากผลการประกอบการปิโตรเลียมของปี 2551 (แต่นำมาชำระในปี 2552) ของผู้รับสัมปทานปิโตรเลียม เป็นเงิน 6,988 ล้านบาท
สำหรับรายได้แผ่นดินที่สำคัญอีก 2 ประเภท คือ ภาษีเงินได้ปิโตรเลียมและผลประโยชน์ตอบแทนพิเศษที่จัดเก็บได้ เป็นเงินประมาณ 93,652 ล้านบาท แบ่งเป็นภาษีเงินได้ปิโตรเลียมซึ่งจัดเก็บโดยกรมสรรพากร เป็นเงิน 86,664 ล้านบาท และรายได้จากผลประโยชน์ตอบแทนพิเศษตามสัมปทานปิโตรเลียม ซึ่งจัดเก็บจากผลการประกอบการปิโตรเลียมของปี 2551 (แต่นำมาชำระในปี 2552) ของผู้รับสัมปทานปิโตรเลียม เป็นเงิน 6,988 ล้านบาท