นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือนกันยายน และไตรมาสที่ 3 ปี 2552 มีการปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจากได้รับผลดีจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยเฉพาะประเทศแถบเอเชีย และประเทศใหม่ๆ ได้แก่ จีน ออสเตรเลีย และฮ่องกง ส่งผลให้การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน รวมทั้งการส่งออก ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว
ส่วนภาคการผลิต อุตสาหกรรม และบริการจัดการท่องเที่ยว สามารถกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ ด้านเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ทั้งอัตราการว่างงาน ทุนสำรองระหว่างประเทศ และฐานะทางการคลัง ก็ยังอยู่ในภาวะที่แข็งแกร่ง
ทั้งนี้ คาดว่าอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ของไทยในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ จะขยายตัวติดลบร้อยละ 3.5-4 และเชื่อว่าจะกลับมาขยายตัวเป็นบวกในอัตราร้อยละ 3-4 ในช่วงไตรมาสสุดท้าย และส่งผลให้เศรษฐกิจทั้งปีขยายตัวติดลบร้อยละ 3
ส่วนภาคการผลิต อุตสาหกรรม และบริการจัดการท่องเที่ยว สามารถกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ ด้านเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ทั้งอัตราการว่างงาน ทุนสำรองระหว่างประเทศ และฐานะทางการคลัง ก็ยังอยู่ในภาวะที่แข็งแกร่ง
ทั้งนี้ คาดว่าอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ของไทยในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ จะขยายตัวติดลบร้อยละ 3.5-4 และเชื่อว่าจะกลับมาขยายตัวเป็นบวกในอัตราร้อยละ 3-4 ในช่วงไตรมาสสุดท้าย และส่งผลให้เศรษฐกิจทั้งปีขยายตัวติดลบร้อยละ 3
